โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาทำประตูชัยให้กับลิเวอร์พูลในนาทีสุดท้าย ตีตั๋วผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ด้วยชัยชนะ 2-1 เหนือมอนเตอร์เรย์ค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา

นาบี เกอิต้า ทำประตูแรกนาทีที่ 11 แต่โรเจลิโอ ฟูเนส โมรีทำประตูตีเสมอได้หลังจากนั้น ในเกมที่เกือบมีการต่อเวลาพิเศษที่คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม แต่สุดท้ายลูกเปิดจากเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ช่วยให้หงส์แดงคว้าชัยชนะ

และนี่คือ 5 ประเด็นที่โดมินิก เรย์เนอร์นักข่าวจากเว็บไซต์สโมสรรวบรวมจากเกมดังกล่าว...

ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของอลิสสัน

เฟอร์มิโน่อาจจะขึ้นพาดหัวนาทีสุดท้าย แต่ฟอร์มของเพื่อนร่วมชาติมีความสำคัญอย่างมากในเกมนี้ ถึงแม้จะความหวังที่จะเก็บคลีนชีตนัดที่ 4 ติดต่อกันไว้ แต่เขาเซฟสำคัญหลายๆ ครั้งในช่วงที่ยังเสมอกัน 1-1

ดอร์ลาน ปาวอนกัปตันทีมมอนเตอร์เรย์ยิงไปติดปลายนิ้วของมือหนึ่งลิเวอร์พูลที่บอลน่าจะเสียบมุมล่างอยู่แล้ว หลังจากนั้นเขายังปัดลูกฟรีคิกไปชนคาน รวมแล้วเกมนี้เขาเซฟไปถึง 7 ครั้ง และยังโชว์ฟอร์มครบเครื่องไว้ใจได้ตลอดทั้งเกม

เฮนโด้ในตำแหน่งเซอร์เตอร์แบ็ก

กับการที่เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค พลาดเกมนี้จากการป่วย แลโจเอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน และฟาบินโญ่ ต่างต้องพักจากการบาดเจ็บทั้งหมด ทำให้กัปตันทีมต้องถอยมาเป็นเซนเตอร์แบ็กเฉพาะกิจในวันพุธ และเป็นครั้งแรกในตำแหน่งนี้ของนักเตะวัย 29 ปี

อย่างไรก็ตามเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และดีขึ้นเรื่อยๆ ในการยืนเคียงข้างโจ โกเมซ โดยเฉพาะการขึ้นบอลจากแนวรับ และจ่ายบอลให้แดนกลาง เขาจ่ายบอลมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในทีมที่ 116 ครั้ง และ 42 ครั้งในแดนของคู่แข่ง และจบเกมด้วยอัตราสำเร็จที่ 92.2  เปอร์เซ็นต์

สัมผัสอันยอดเยี่ยมของเกอิต้า

ฟอร์มการทำประตูต่อเนื่องของนักเตะวัย 24 ปียังดำเนินต่อไปที่คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม ที่เขาเริ่มเกมอย่างยอดเยี่ยมให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ 11 นาทีแรก จากจังหวะวิ่งเข้าไปรับลูกจ่ายทะลุของซาลาห์ และยิงเข้าประตูไป แสดงให้เห็นว่าทำไมเขาทำไปถึง 6 ประตูจาก 13 เกมหลังสุดให้กับหงส์แดง

เขายังเกือบทำประตูได้อีกลูกแบบเดียวกันจากการเข้าไปรับบอลตามช่องของอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่ลูกมาร์เซโล่ บาโรเวโร่ป้องกันไว้ได้ หลังจากนั้นเขายังพาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนพักครึ่ง แต่ยิงไปตรงตัวผู้รักษาประตู ก่อนที่จบเกมเขายิงเข้ากรอบได้ 2 ครั้งมากที่สุดในทีม และอีกหนึ่งครั้งที่จ่ายให้เพื่อนได้ลุ้นประตู รวมถึงแน่นอนว่าอีกหนึ่งประตูที่สำคัญในเกมนี้

มิลเนอร์ถึงหลักสองร้อย

กองกลางสารพัดประโยชน์คงเป็นคำพูดที่เหมาะสม สำหรับเจมส์ มิลเนอร์ที่ลงเล่นกมที่ 200 ให้กับหงส์แดงในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งเป็นอีกครั้งตลอด 4 ปีครึ่งในแอนฟิลด์ที่เขาแสดงให้เห็นถึงการเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง

การเปิดบอลจากริมเส้น การช่วยเหลือเซนเตอร์แบ็กที่อ่อนประสบการณ์ในตำแหน่งนี้ และบังเกือบทำประตูได้จากจังหวะตอกส้นของซาลาห์แต่ถูกบาโรเวโร่หยุดยั้งไว้ได้ ทุกอย่างเป็นค่ำคืนที่ออกมาดีสำหรับรองกัปตันทีมก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 75 หลังจากทำหน้าที่ทุกอย่างริมเส้นด้านขวา

นักเตะจากบราซิล

ลิเวอร์พูลจะเผชิญหน้ากับฟลาเมงโก้ในรอบชิงชนะเลิศวันเสาร์นี้ หลังจากเคยเจอกันในอินเตอร์เนชันแนล คัพ ย้อนไปในปี 1981 ที่หงส์แดงของบ็อบ เพสลีย์พ่ายทีมที่มีซิโก้ไป 0-3

เกมนัดนี้จะเป็นครั้งที่ 4 ที่หงส์แดงเข้าชิงดำในรายการนี้ และเป็นครั้งที่ 3 ที่พวกเขาเผชิญหน้าคู่แข่งจากบราซิล โดยก่อนหน้านี้ทีมของราฟาเอล เบนิเตซ พ่ายต่อเซาเปาโลก 0-1 ในครั้งสุดท้ายของลิเวอร์พูลในคลับ เวิลด์ คัพ เมื่อปี 2015