เจอร์เก้น คล็อปป์ไม่หวั่นว่าฟอร์มปัจจุบันของลิเวอร์พูลจะทำให้ลูกทีมของเขาเหลิง ในขณะที่กำลังจะกลับมาลงสนามในพรีเมียร์ลีกในการเยือนเลสเตอร์ ซิตี้ ในวันบ็อกซิ่งเดย์

หงส์แดงคว้าแชมป์โลกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนำจ่าฝูงลีกสูงสุดอังกฤษเหนือคู่แข่งในวันนี้ 10แต้ม แต่เขามั่นว่าลูกทีมยังจะทุ่มเททำผลงานเต็มที่

และนี่คือประมวลสิ่งที่ผู้จัดการทีมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในวันคริสต์มาส อีฟ...

เมื่อไรที่ทาคุมิ มินามิโนะจะร่วมทีมลิเวอร์พูลจะอยู่ในทีมลิเวอร์พูล และพร้อมลงเล่น...

1 มกราคม ลองดูสถานการณ์ของเรา ผมเข้าใจคำถามนะ แต่คุณจะถามผมได้ยังไงในตอนที่เรามีนักเตะที่เป็นผู้ใหญ่ 14 คนแบบนี้? ผมจะมีความสุขถ้าเขาทำได้ดีครึ่งหนึ่งจากที่เขาเป็นหากเขามาที่นี่ในตอนนี้ และช่วยเราได้ และเขาจะช่วยเราได้

ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ดี เราจะรอดูว่ามันจะเร็วแค่ไหน วิธีต่างๆ ที่เราเล่นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก มีหลายอย่างที่เขาเรียนรู้มาแล้วจากที่ซัลซ์บวร์ก นั่นเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับเราอย่างแท้จริง

เรามีรูปแบบหลายอย่างในเกมที่แตกต่างกับสิ่งที่ซัลซ์บวร์กกำลังทำ ซึ่งในส่วนของเกมรุก เมื่อคุณพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาคุ้นเคย ประมาณนั้นในส่วนของเกมรับ

เขาเป็นผู้เล่นในเกมรุก ดังนั้นในส่วนของเกมรุกเรามีวิธีการอย่างไรที่จะส่งเขาลงไปในสถานการณ์ที่จะทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างที่สุด และใช้สิ่งที่เป็นสัญชาตญาณ และไม่ใช่เพราะว่าเราบอกเขา?

นั่นคือสิ่งที่เราพูดทุกๆ ปีเกี่ยวกับเมื่อเราพูดถึง(เกี่ยวกับนักเตะใหม่) ‘ทำไมเขาไม่ได้ลงเล่น?’ ตลอดเวลา และอะไรแบบนี้ มันไม่มีความกดดัน ไม่มีความกดดันเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขาเข้ามาในเดือนมกราคม

ทีมชุดนี้ไม่มีปัญหาโดยไม่มีเขา ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการคือคุณภาพที่พิเศษกับการมีเขา คุณภาพที่แตกต่างจากเขา และเขาเป็นนักเตะที่ดีมากจริงๆ นั่นคือสิ่งที่เราได้มา และจากจุดนี้เราสามารถใช้เขาได้ จริงๆ แล้วเราต้องรอดู

จากจุดนี้เราจะได้เห็นทาคุมิแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความกดดันใดๆ เลยในตัวเด็ก ซึ่งมีเรื่องต่างๆ มากมายจะช่วยเรา แต่กับช่วงเวลาที่เขาสามารถใช้ทุกอย่างที่มีได้ เราจะต้องรอดู

มันยากง่ายแค่ไหนในการปรับสมาธิจากเกมคลับ เวิลด์ คัพ มาเป็นภารกิจในพรีเมียร์ลีกในเกมเยือนเลสเตอร์...

ง่ายมากๆ เราเจอแบบนี้เป็นประจำ เราลงเล่นสม่ำเสมอหลากหลายรายการ มันแค่ 2-3 สัปดาห์แรกเท่านั้นที่เราไม่ได้ลงเล่นในแชมเปียนส์ลีก และในแชมเปียนส์ลีกเกมกับซัลซ์บวร์กคือเกมแบบอยู่หรือไป

เราต้องไปที่นั่น และโฟกัสอย่างเต็มที่ในสถานการณ์เฉพาะเจาะจงในเกม เกมพรีเมียร์ลีกคุณต้องการที่จะชนะ เกมแชมเปียนส์ลีกบ่อยครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายๆ รอบของเรา เราต้องชนะอยู่เป็นประจำ เพราะว่าเรานำตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์ที่มันเป็นอย่างนี้ เราคุ้นเคยกับเรื่องนี้

ตอนนี้นี่คือเกมพรีเมียร์ลีก และมันไม่มีปัญหาในการปรับสมาธิ ความรู้สึกหลังเกม(กับฟลาเมงโก้)โดดเด่นเป็นพิเศษ มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ แต่มันไม่ใช่แบบปาร์ตี้ที่บ้าคลั่งหลังจากมัน เพราะว่าเรารู้ว่าเราต้องลงเล่นวันพฤหัสบดี และการฟื้นฟูร่างกายเริ่มต้นตั้งแต่นาทีแรกหลังจากเสียงนกหวีดยาวเป่าจบเกม

อารมณ์คึกคักเป็นพิเศษ ซึ่งเราต้องมองเรื่องนี้ในแง่บวก แต่เรารู้ชัด 100 เปอร์เซ็นต์ว่ากับเลสเตอร์เป็นความท้าทายของเรากับทุกอย่างที่พวกเขามี พวกเขามีเป้าหมายของพวกเขา พวกเขามีเป้าหมายส่วนตัว และการทำประตู ดังนั้นเราต้องพร้อมสำหรับเรื่องนี้ เราคุ้นเคยกับมัน แต่เรารู้ว่ามันแสดงออกมาอีกครั้งในสนาม มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับจากรายการหนึ่งเป็นอีกรายการ

การทำให้แน่ใจว่าลิเวอร์พูลจะไม่หลงระเริง...

ชัดเจนว่ามันเป็นอย่างนั้นในชีวิตปกติ ถ้าคุณประสบความสำเร็จนิดหน่อย และคุณหลงระเริงไปกับมัน คุณจะตระหนักอย่างรวดเร็วว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย

ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามอย่างมันเป็นในโรงเรียน และคุณติดท็อปในการสอบ และคุณคิดว่า ‘โอเค มันเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ผมทำวิชาคณิตศาสตร์ได้ และอะไรทุกอย่างเหล่านี้’ คุณจะตระหนักในการสอบครั้งต่อไปว่าคณิตศาสตร์มันยากขึ้นตั้งแต่คุณดูหนังสือเล่มสุดท้าย ชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ

เราไม่เหลิงอะไรเลย ไม่แม้แต่น้อย เราโฟกัสอย่างเต็มที่สำหรับขั้นตอนต่อไป ทุกอย่างที่ผมสามารถพูดเกี่ยวกับมัน ผมมักจะชอบแบบนี้ ผมไม่เคยเลยในชีวิตที่ต้องการจะมีปาร์ตี้ก่อนจะมีเหตุผลเกี่ยวกับมันจริงๆ

เมื่อมีปาร์ตี้ด้วยเหตุผลที่แท้จริงแล้วผมจะร่วมด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก่อนหน้านั้นผมไม่ต้องการมัน ผมไม่ต้องการมันจริงๆ

มันไม่ใช่ว่าผมชอบปาร์ตี้แบบ 20 เปอร์เซ็นต์ และอะไรแบบนี้ มีเรื่องนั้นเรื่องนี้นิดๆ หน่อย ผมสามารถรองานสำคัญๆ ได้ง่ายๆ ไม่มีทางที่เราจะมีอารมณ์แบบนั้นที่เราลืมเรื่องต่างๆ ที่เราต้องทำ ครั้งถัดไปเราต้องพิสูจน์ให้เห็นเรื่องในนี้คือเกมกับเลสเตอร์ในวันพฤหัสบดี ในวันบ็อกซิ่งเดย์

โปรแกรมช่วงคริสต์มาสเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ชม...

ถ้าผู้คนที่นี่ต้องการมัน ใช่ ในเยอรมนีเป็นไปได้ว่ามันจะมีปัญหาหลายอย่างในส่วนของพื้นฐานความเป็นส่วนตัวเมื่อผู้คนเริ่มดูบอลในวันที่ 25 และ 26 ธันวาคม เพราะว่าเราไม่ได้คุ้นเคยกับมัน

ไม่มีผู้จัดการทีมของเรามีปัญหากับ(โปรแกรม)วันบ็อกซิ่งเดย์ ไม่มีสักคน แต่การลงเล่นในวันที่ 26 และ28 คืออาชญากรรม มันไม่โอเคเลย และเรายังต้องเจอ ปีนี้เราไม่ต้องเจอ เรามีเกมในวันที่ 26 และ 29 และมันเหมือนกับได้พักร้อน

ผมเข้าใจที่คนอื่นๆ ที่เป็น ไม่ใช่การโวย แต่ต้องมีใครควรจะบอกว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้น มันไม่ใช่เพื่อปรากฏการณ์ ไม่ใช่เรื่องอะไรก็ตาม มันไม่ใช่ปัญหาที่จะลงเล่นวันที่ 26 และ 29 โดยมีทีมลงเล่นมากขึ้น

ไม่มีเหตุผลที่จะให้ทีมใดๆ มีเวลาน้อยกว่า 48 ชั่วโมงในการลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกอีกเกม นั่นคือชีวิตของเรา และชัดเจนว่าเราสามารถพูดอะไรก็ได้ที่เราต้องการ และไม่มีใครสนใจมันจริงๆ ในทุกๆ ปีจะมีโค้ชชะตากรรมเดียวกันเจอกับเรื่องนี้ กับการลงเล่นในวันที่ 26 และ28

วิทยาศาสตร์การกีฬาไม่ได้ให้อะไรแก่คุณเพื่อจัดการกับมัน เพราะสิ่งต่างๆ เป็นเหมือนกับที่มันเป็น ร่างกายต้องการเวลามากพอที่จะให้มันไปต่อได้อีกครั้ง มันเป็นอย่างที่มันเป็น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะรับมือกับบางอย่างได้นานแค่ไหน มันเป็นเรื่องง่าย มันคือวิทยาศาสตร์

แต่เราเพิกเฉยมันอย่างสิ้นเชิง เราแค่มองดู และคิดว่า ‘พระเจ้าช่วย มันดูแปลกๆ เมื่อพวกเขาวิ่งได้อีกครั้งในวันนี้’ และสถานการณ์มันเป็นอย่างนั้น

เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้น แต่ผมเข้าใจผู้จัดการทีมแต่ละคนที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับมันตลอดครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่วันที่ 23-24 ธันวาคม เมื่อพวกเขาตระหนักว่ามันกำลังจะมาถึง เพราะมันแค่ไม่โอเค แต่คนอื่นๆ กลับเป็นตัดสินใจเกี่ยวกับมัน

ฟอร์มของแมนฯ ซิตี้ และลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีกในช่วงหลายปีหลังเพิ่มมาตรฐานในแง่สิ่งที่ต้องการสำหรับการคว้าแชมป์ลีกหรือไม่...

ผมคิดว่า ซิตี้ขยับมาตรฐานขึ้นไปเยอะมากๆ ความสม่ำเสมอที่พวกเขาแสดงออกมาใน 3 ปีล่าสุดเป็นไปได้ว่าไม่น่าเชื่อ และยากมากที่จะทำถ้าพูดตามตรง

พวกเขากลายเป็นแชมป์เมื่อ 2 ปีก่อน และผมคิดว่าปีที่แล้วเราช่วยเป็นอย่างมาก พวกเขาช่วยเรากับความพยายามไล่ตามพวกเขา พวกเขาทำมันได้ในวิธีการที่น่าเหลือเชื่อถ้าพูดตามตรง มันไม่อนุญาตให้แพ้เกมได้เลย มันเป็นอย่างนั้น มันเป็นเรื่องยาก แต่การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกน่าจะต้องเป็นเรื่องยาก

มันเป็นลีกที่แข็งแกร่งมากกับทีมทั้งหมดที่คุณเห็นในตอนนี้ วัตฟอร์ดดูเหมือนพวกเขาไปแล้ว ตกชั้นไปแล้ว แต่ไนเจล(เพียร์สัน)เข้ามา เล่นที่นี่ในแอนฟิลด์ในเกมที่สุดยอด และหลังจากนั้นชนะในสัปดาห์ต่อมา และทุกๆ คนต้องระวังพวกเขาอีกครั้ง

ตอนนี้มี 6-7 ทีมที่จะต่อสู้ด้วยทุกอย่างที่พวกเขามีไปจนถึงเกมสุดท้ายสำหรับทุกๆ แต้มเล็กแต้มน้อยที่คุณจะเก็บได้ ซึ่งเกมเหล่านี้เป็นเรื่องยากมาก

คุณลองดูตอนที่มันดูเหมือนว่าท็อป 4 จะจบไปแล้วอะไรแบบนี้ และมันชัดเจนว่าใครจะลงเล่นในแชมเปียนส์ลีกปีหน้า รวมกับทีมทั้งหมดเหล่านี้(มันเปลี่ยนแปลง) มี 7-8 สโมสรที่พร้อมจะสู้ด้วยทุกอย่างที่พวกเขามีเพื่อไปอยู่ในแชมเปียนส์ลีก บวกกับการลงเล่นในยูโรปา อีก 4 ทีมถัดจากนั้น

ลีกมันเป็นอย่างนั้น และคุณต้องเจมันทุกๆ สามวันในการที่จะต้องชนะเกมเหล่านี้ มันเป็นอย่างนั้น เรารู้ในเรื่องนี้ว่าเราไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมันเช่นกัน เราไม่ต้องคิดเกี่ยวกับเกมล่าสุดที่เราชนะ เราแค่ต้องคิดเกี่ยวกับเกมถัดไปที่เราลงเล่น

เกมถัดไปเป็นแค่ทางเดียวจริงๆ ที่ผมเข้าใจ และนั่นคือสิ่งที่เราพยายามซึ่งทุกอย่างเป็นเรื่องยากมาก การอยู่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปัญหาที่คุณจะเผชิญ ค่อนข้างชัดว่านั่นคือแผนการ บางทีมันออกมาดี ไม่เสมอไปในบางครั้ง และนั่นคือสิ่งที่เราจะพยายามอีกครั้งในครั้งนี้