Match Report: ลิเวอร์พูลพ่ายเชลซี ตกรอบเอฟเอ คัพ
เส้นทางของลิเวอร์พูลในรายการเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ ต้องจบลงที่รอบ 5 หลังพ่ายเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ 0-2
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: อาเดรียน, วิลเลียมส์, ฟาน ไดจ์ค, โกเมซ, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ลัลลานา, โจนส์, มินามิโนะ, มาเน่ และโอริกี
สำรอง: โลเนอร์แกน, มิลเนอร์, เฟอร์มิโน่, ซาลาห์, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มาติป และชิริเบย่า
จังหวะสำคัญในเกม
- นาที 12 วิลเลียนยิงให้เชลซีนำ 1-0
- นาที 64 บาร์คลีย์ยิงให้เชลซีนำ 2-0
เกมในครึ่งแรก
ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมเอฟเอ คัพ รอบ 5 ด้วยการไปเยือนเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยทีมชุดใหญ่ ผสมกับดาวรุ่งอะคาเดมี
แม้ลิเวอร์พูลจะออกสตาร์ทได้ก่อนจากจังหวะของมาเน่ แต่ยิงไปติดเซฟในนาที 3 แต่กลายเป็นว่าเชลซีเจ้าบ้านขึ้นนำไปก่อนในนาที 12 จากการทำประตูของวิลเลียน เมื่อเชลซีได้บอลจากการครอบครองของฟาบินโญ่ และยิงเข้าไปตรงๆ แต่อาเดรียนที่เซฟได้ก่อนหน้านี้ กลับทำบอลหลุดมือก่อนตุงตาข่ายไป
เชลซียังได้บุกเป็นระยะ และในนาที 18 อลองโซ่ยิงฟรีคิกเฉี่ยวคานไปนิดเดียว
ส่นลิเวอร์พูลเกือบตีเสมอได้ในนี 20ที่มินามิโนะจับบอลได้ในเขตโทษ แต่ไม่มีจังหวะยิง รวมทั้งจังหวะเซฟของเกป้าที่เซฟถึง 3 จังหวะ
เกป้ายังคงช่วยให้เชลซีคงสกอร์นำอีกครั้งจากจังหวะที่มาเน่ทะลุเข้าไปในกรอบ ก่อนได้ยิงไปติดเซฟของเกป้า บอลมาเข้าทางวิลเลียมส์ แต่ยิงไม่เข้ากรอบในนาที 30
จากนั้นอีก 7 นาที ลิเวอร์พูลมาได้โอกาสจากลูกเตะมุม และโอริกีได้ยิงฮาล์ฟวอลเลย์ แต่เหินข้ามคาน ทำให้จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายตามเชลซีอยู่ 1 ประตู
เกมในครึ่งหลัง
ลิเวอร์พูลเริ่มต้นครึ่งหลังพร้อมหวังทวงประตูคืนให้ได้ และในนาที 56 ทีมเยือนได้โอกาสจากลูกเปิดของวิลเลียมส์เข้ากลาง บอลกระดอนไปที่มาเน่ที่อยู่ในกรอบ แต่ไม่มีจังหวะยิง
และในจังหวะโต้กลับของเชลซีในนาที 58 ลัลลานาเสียฟาวล์ในจังหวะแฮนด์บอล เชลซีจึงได้ฟรีคิกนอกกรอบ แต่ไม่มีจังหวะยิงที่จะแจ้งเช่นกัน ก่อนที่ในสองนาทีต่อมา ฟาบินโญ่จะได้ใบเหลืองจากการสกัดเมาท์นอกกรอบเขตโทษ โชคดีที่ฟรีคิกของเมาท์ชนคาน ลิเวอร์พูลจึงยังตามเชลซีแค่เพียงประตูเดียว
แต่สุดท้ายลิเวอร์พูลต้องเป็นฝ่ายตามหลังจนได้ในนาที 64 หลังบาร์ลีย์ได้บอลทะลุเข้าไปในกรอบก่อนซัดไกลเข้าไป และหลังจากนั้นเชลซีเกือบนำห่างจากลูกยิงของเปโดร แต่อาเดรียนเซฟไว้ได้ในนาที 67
คล็อปป์ส่งเฟอร์มิโน่ และมิลเนอร์ลงมาแทนโอริกี และโจนส์ ในนาที 70
ยังเป็นเชลซีที่เกือบทำประตูเพิ่มได้ในนาที 74 แต่อาเดรียนเซฟลูกยิงของชิรูด์ไว้ได้แบบปลายนิ้ว
ลิเวอร์พูลได้ลุ้นจากลูกเตะมุมบ้างในนาที 76ก่อนที่มิลเนอร์จะได้รับใบเหลืองจากการเข้าสกัดเปโดรที่ได้บอลโต้กลับขึ้นมา
คล็อปป์ส่งซาลาห์ลงมาแทนลัลลานาในนาที 80
กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 5 นาที
เส้นทางของลิเวอร์พูลในเอฟเอ คัพ จบ ลงที่รอบนี้
