ลิเวอร์พูลหวังจะแก้ตัวจากความพ่ายแพ้ในเกมแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับบอร์นมัธที่แอนฟิลด์ในวันเสาร์นี้

ทีมจ่าฝูงจะพบกับเดอะ เชอร์รีส์ที่จะลงเล่นสัปดาห์นี้ในโซลตกชั้นจากผลต่างประตูได้เสียเพียงลุกเดียว หลังจากเสมอเชลซี 2-2 ในเกมล่าสุด และเราได้พูดคุยกับแซม เดวิส (@afcbpodcast) จากพอดแคสต์ Back of the Net ที่จะมาให้มุมมองเกี่ยวกับผู้มาเยือน...

(ย่อนิดหน่อย)

มันเป็นการเก็บหนึ่งแต้ม หรือทำแต้มหลุด 2 แต้มในเกมล่าสุดกับเชลซี?

มันรู้สึกเหมือนสองแต้มหลุดในเกมนั้น เพราะประตูท้ายเกมดูเหมือนเป็นข่าวร้ายเมื่อคุณเกือบจะได้สามแต้ม อย่างไรก็ตามเมื่อคุณย้อนไปดูสถิติการครองบอล และจำนวนครั้งที่ทีมเยือนขึ้นมาหน้าประตูของเราแล้ว คุณต้องบอกว่าผลเสมอกับเชลซีเป็นผลการแข่งขันที่ดีจริงๆ สำหรับเรา และน่าพอใจแล้ว

อะไรเป็นแง่บวกที่คุณได้จากเกมนี้?

มันเหมือนกับเราได้เอกลักษณ์เฉพาะตัวกลับมากหลังจากหายไปนาน หลายเดือนที่เราเห็นทีมทำมันขาดหายไป เราเห็นมันลงตัวในเวลาที่เหมาะสมตอนนี้ และการประสานงานของเจฟเฟอร์สัน เลอร์มา, ฟิลลิป บิลลิง และแจ็ค สตาซีย์ช่วยได้เป็นอย่างมาก การกลับมาสมบูรณ์ของโจชัว คิงนักเตะที่มีอิทธิพลต่อทีมมากเป็นโบนัสก้อนโตเช่นกัน

เพิ่มเติมในเรื่องนี้ สมาธิของเราดูจะหลุดไปหลายครั้งในฤดูกาลนี้ อย่างเช่นการเสียประตูท้ายเกมเป็นข่าวร้ายมาก ความจริงคือเรากลับมาจากตามหลัง 0-1 ในการเจอกับทีมระดับเชลซีน่าจะเพิ่มความมั่นใจอย่างยิ่งให้กับเรา

สองประตูนี้มากจากการครองบอลแค่ 27 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคุณคาดว่าจะเหมือนกับในเกมกับลิเวอร์พูลหรือไม่?

แน่นอนว่าผมไม่มองว่าเราลงไปเล่นฟุตบอลที่เหนือกว่าแต่อย่างใด เราสร้างทีมเพื่อดูดซับความกดดันต่างๆ มันอาจจะมีประสิทธิภาพในการเจอกับทีมที่เล็กๆ ในลีก แต่ความเข้มข้นตามธรรมชาติที่คล็อปป์ถ่ายทอดให้กับลิเวอร์พูลชุดนี้ ผมหวั่นใจว่าคุณภาพของพวกเขาจะข่มคุณภาพแนวรับที่เรามี จุดแข็งของเดอะ เชอร์รีส์อยู่ที่เกมรุก และกุญแจสำคัญของเราคือต้องคว้าโอกาสให้ได้จากทุกโอกาสที่เรามี ซึ่งน่าเสียดายที่เราทำไม่ได้มาสักพัก

คัลลัม วิลสัน และโจชัว คิงกลับมาทำประตูได้ ทั้งคู่มีความสำคัญต่อทีมแค่ไหน?

ฟอร์มของวิลสันดีขึ้นมากในเดือนที่แล้ว แต่เขายอมรับว่าน่าจะยิงได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามการเก็บบอลของเขาดีขึ้น ซึ่งมันดีที่เห็นเขากลับมาเป็นนักสู้ และสร้างความยากลำบากให้กับกองหลัง ส่วนคิงกำลังหาจังหวะหลังกลับมาจากการบาดเจ็บ แต่ความเร็วของเขาเป็นสิ่งที่เดอะ เชอร์รีส์ขาดหายไป และการกลับมาของเขาจะเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีในการหนีตกชั้นสำหรับเรา

ผู้เล่นคนใดเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับทีม?

ดาวเด่นของบอร์นมัธแน่นอนว่าเป็นเลอร์มาที่เป็นเครื่องจักรกลางสนาม เขาขาดใบเหลืองเดียวที่จะติดโทษแบน ซึ่งผมสงสัยว่าเอ็ดดี้ ฮาวจะใช้ประโยชน์จากเขาในเกมไหน กับความเข้มข้นที่ทำให้เขาเสี่ยงมากในเกมนี้ การเข้าบอลที่หนักหน่วง การจ่ายบอล และความกระตือรือร้นในแดนกลาง แน่นอนว่าเขาจะเป็นส่วนสำคัญใน 10 เกมสุดท้ายที่เหลือของฤดูกาลของบอร์นมัธ

จุดไหนที่อันตรายที่สุดสำหรับบอร์นมัธในการมาเยือนแอนฟิลด์?

ไม่น่าแปลกใจที่จุดแข็งคือความกล้าเล่นเกมโต้กลับของโจชัว คิง และไรอัน เฟรเซอร์ ผมเห็นเราใช้กองกลาง 5 ตัวมาแล้ว และหวังว่าเราจะสู้กับคุณภาพของลิเวอร์พูลตรงกลางสนาม ถ้าเราออกบอลริมเส้นได้ตั้งแต่ต้น เฟรเซอร์ และคิงมีโอกาสดีที่จะสร้างปัญหาให้กับริมเส้นทั้งสองข้าง แต่พวกเขาจะเจองานหนัก เพราะจุดแข็งของลิเวอร์พูลคือกองหลังตัวริมเส้นของพวกเขา

ดังนั้นมันเป็นการดวลกันที่น่าสนใจ

นักเตะหัวใจสำคัญในการต่อสู้ที่คุณจับตามองที่สุด?

กับเฟรเวอร์ที่น่าจะเล่นริมเส้นด้านขวาในเกมนี้ มันจะเป็นการดวลกันที่น่าสนใจระหว่างเขากับแอนดี โรเบิร์ตสัน นักเตะทั้งสองคนมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในทีมชาติสกอตแลนด์ และความเร็ว และความว่องไวของทั้งคู่น่าจับตามอง และผมหวังว่า ‘วีแมน’ ของเราจะเหนือกว่าโดยเฉพาะการดวลตัวต่อตัว

คุณคาดว่าบอร์นมัธจะจัดตัวกับลิเวอร์พูลอย่างไร?

เราน่าจะใช้กองกลาง 5 ตัว ทีเป็นเทคนิคที่ทำได้ดีมากที่สแตม ฟอร์ด บริดจ์ตอนที่เราชนะเชลซี เอ็ดดี้ ฮาวชอบเล่นแบบไฮบริดคือเป็น 4-3-3 ตอนเล่นเกมรุก ที่น่าจะเป็นทางเลือกในเกมนี้ ที่นักเตะของเราน่าจะวางแผนมาเน้นรับมากกว่าจะมุ่งมั่นทำเกมรุก

คุณทำนายเกมนัดนี้ว่าอย่างไร?

ใจผมบอกว่าบอร์นมัธจะสามารถกลับออกมาพร้อมหนึ่งแต้ม โดยเฉพาะเมื่อเห็นฟอร์มระยะหลังของลิเวอร์พูลกับเวสต์แฮม และวัตฟอร์ด อย่างไรก็ตามผมคงจะดูโง่ถ้าทายอะไรนอกจากลิเวอร์พูลชนะ

มันไม่ใช่เกมที่แฟนเดอะ เชอร์รีส์จะเอาตัวเลขมาคำนวณการอยู่รอด แต่ฟอร์มที่ดีของทีมอาจจะเป็นลางดีสำรหับการเก็บชัยชนะในบ้านบางเกมที่รออยู่