คลาสสิก แมตช์: อาร์เซนอล 2008
“ม้าบ้ามาก! ในช่วงเวลาหนึ่งคุณตกรอบไปแล้ว แต่วินาทีต่อมา คุณกลับมาอยู่ในการแข่งขันอีกครั้ง มันบ้ามาก”
ไรอัน บาเบล บรรยายไว้อย่างสมบูรณ์แบบถึงเกมพบกับอาร์เซนอลที่สุดเร้าใจที่แอนฟิลด์ในวันนี้เมื่อปี 2008
บาเบลเองเพิ่งลงเล่นในเลกที่สองของรอบก่อนรองชนะเลิศก่อนหมดเวลา 12 นาที อย่างไรก็ตาม มันมีเวลาเพียงพอที่จะพลิกเกมที่เหลืออยู่
“ค่ำคืนแชมเปียนส์ลีกเป็นอะไรที่พิเศษเสมอที่แอนฟิลด์” ดาวเตะดัตช์กล่าวกับ Liverpoolfc.com หลังผ่านไป 12 ปี “ผมจำได้ว่าอาร์เซนอลยอดเยี่ยมมากในเกมนั้นทำให้มันยากสำหรับเรา”
ทีมของอาร์แซน เวนเกอร์เป็นคู่แข่งที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เมื่อพวกเขาเจอกันเป็นเกมที่ 3 ในรอบระยะเวลาเพียง 6 วัน
หลังจากเสมอ 1-1 ในเกมเยือนเอมิเรตส์ สเตเดียม ลิเวอร์พูลของราฟาเอล เบนิเตซได้เปรียบเล็กน้อยจากประตูทีมเยือนของเดิร์ก เคาต์ แต่ความได้เปรียบคงอยู่ที่แอนฟิลด์ไม่นานนัก
เกมเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว และน่าประทับใจสำหรับทีมปืนใหญ่เมื่ออาบู ดิอาบี้ทำประตูได้ใน 13 นาทีแรก แต่ครึ่งหลังเริ่มต้นอย่างงดงามเมื่อ ซามี่ ฮูเปียตีเสมอ 1-1 หลังเกมผ่านไปหนึ่งชั่วโมงจากการสะบัดศรีษะโหม่งเสียบมุมประตู
เกมยิ่งสนุกเร้าใจมากขึ้นเมื่อมาถึงจุดนี้จากลูกยิงอันงามหยดย้อยของเฟร์นานโด ตอร์เรส
ปีเตอร์ เคราช์โหม่งลูกเปิดยาวของเปเป้ เรน่าไปให้กับตอร์เรส ซึ่งหันหลังประตู ดาวเตะสเปนหมุนตัว และซัดเสียบมุมเป็น 2-1
“มันเป็นตัวประเมินเกมนัดนี้ ที่ลูกยิงอย่างนั้นยังไม่อาจจะตัดสินค่ำคืนดังกล่าวได้” รายงานข่าวของเดอะ การ์เดี้ยน ระบุ
หลังจากนั้นทั้งสองทีมีการเปลี่ยนตัวครั้งสำคัญสองครั้ง ธีโอ วัลค็อตต์ที่มีความเร็วสูงลงมาแทนเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ก่อนที่เคราช์จะเปิดทางให้บาเบลลงมาตามการวิเคราะห์จากบนม้านั่งสำรอง
“สิ่งที่คุณทำ นั่นเป็นไปโดยธรรมชาติในฐานะนักเตะ” ปีกอาแจ็กซ์ที่ตอนนี้อยู่ภายใต้สัญญายืมตัวกับกาลาตาซารายยืนยัน “คุณพยายามมองคู่แข่งที่คุณอาจจะต้องเผชิญหน้าถ้าคุณลงเล่น”
“คุณต้องพยายามอ่านเกมที่คุณมองถึงความเป็นไปได้ ผมคิดว่ามันสูสีมาก เกมเปิดกว้างมาก มีโอกาสมากมายทั้งสองฝั่ง”
ในที่สุดอาร์เซนอลก็คว้าโอกาสที่พวกเขาสร้างขึ้นได้ในนาทีที่ 84 มันเริ่มจากจังหวะเตะวืดของสตีเวน เจอร์ราร์ด
เสียงครวญครางดังอื้ออึงในแอนฟิลด์ เมื่อวัลค็อตต์เก็บบอลได้มุมของเขตโทษของตัวเองราวกับผู้ชมรับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
วัลค็อตต์พาบอลหนีชาบี อลอนโซ่ หลังจากนั้นเอาชนะฟาบิโอ ออเรลิโอ ตอนนี้เข้ามาในแดนของลิเวอร์พูล ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ไม่สามารถทำฟาวล์ได้ก่อนที่ฮูเปียจะพยายามสกัดบอล
แต่มันไม่สำเร็จ นักเตะดาวรุ่งของอาร์เซนอลจ่ายย้อนให้เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ซัดเข้าประตู นั่นทำให้สกอร์รวมเป็น 3-3 ซึ่งลิเวอร์พูลจะตกรอบจากกฎประตูทีมเยือน
แต่ยังมีดราม่าท้ายเกมอีกหลายอย่างตามมา
“เกมในบ้านเรามีความพิเศษเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ำคืนแชมเปียนส์ลีก” บาเบลยืนยัน “กับแฟนบอลที่คอยสนับสนุนเรา เรารู้ว่ายังมีบางอย่างที่เป็นข้อได้เปรียบที่เราจะนำไปใช้ได้อยู่”
“เมื่อคุณลงมา คุณพยายามผลักดันตัวเองด้วยพลังจากผู้ชม ชัดเจนว่าเกมนั้นเป็นเกมที่ดีมาก”
และทันทีหลังจากที่เกมเริ่มต้นอีกครั้ง บาบาพาบอลเข้าไปในกรอบ 18 หลา และโคโล ตูเร่ ที่ถูกโยกมาเป็นแบ็กขวาทำฟาวล์
เจอร์ราร์ดแก้ตัวจากความผิดพลาดก่อนหน้านั้น ซัดจุดโทษอย่างมั่นใจให้หงส์แดงจองตั๋วในรอบรองชนะเลิศ
“นั่นเป็นไปได้ว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยโชว์ฟอร์มออกมาในชุดลิเวอร์พูล” กัปตันทีมยอมรับหลังเกม “แต่ผมยังคงโชว์ความเยือกเย็นในการยิงจุดโทษ”
ในที่สุดความตึงเครียดของเกมก็ผ่อนคลายลงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งเกมรุกหนักของอาร์เซนอล ทำให้เคาต์สามารถต่อบอลได้ในแดนบนของสนาม”
“ถ้าคุณทิ้งเซสก์ ฟาเบรกาสไว้ด้านหลังผม ผมจะทำประตูได้แน่!”บาเบลหัวเราะ
อันที่จริงเจ้าของเสื้อเบอร์ 19 เบียดเอาชนะฟาเบรกาสแย่งบอลหนีออกไป และยิงผ่านมานูเอล อัลมูเนียที่หลุดจากตำแหน่ง
“ชัดเจนผมคิดว่านี่คือหนึ่งในช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่คุณมักจะมองย้อนกลับไป” บาเบลกล่าว “ช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจกับความรู้สึกที่ภาคภูมิใจ”
“มันเป็นฤดูกาลแรกของผม แชมเปียนส์ลีกรอบก่อนรองชนะเลิศครั้งแรกของผม และการเป็นคนสำคัญของทีมของคุณ ช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม”
“มันสนุกเสมอที่ได้เห็นภาพ และไฮไลท์จากเกมนั้น ชัดเจนว่าเป็นเกมที่พิเศษ”