Match Report: ลิเวอร์พูลเยือนไบรท์ตันพร้อมเก็บสามแต้มกลับเมอร์ซีย์ไซด์

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจ์ค,วิลเลียมส์, เฮนเดอร์สัน, ไวจ์นัลดุม, เกอิต้า, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, ฟาบินโญ่, มิลเนอร์, มาเน่, มินามิโนะ, โรเบิร์ตสัน, โอริกี, โจนส์ และเอลเลียตต์   

จังหวะสำคัญในเกม

• นาที 6 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
• นาที 8 เฮนเดอร์สันยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-2
• นาที 45 ทรอสซารด์ยิงให้ไบรท์ตันตามมา 1-2
• นาที 76 ซาลาห์โหม่งให้ลิเวอร์พูลนำ 1-3

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 34 ของพรีเมียร์ลีก ด้วยการไปเยือนไบรท์ตัน โดยในเกมนี้เนโก้ วิลเลียมส์ ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมแรก

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูอย่างรวดเร็วในนาที 6 เมื่อเกอิต้าได้บอลจากจังหวะที่ประตูไบรท์ตันเตะบอลเริ่มเกมไม่ดีก่อนจะไหลให้ซาลาห์ยิงเข้าไปแบบไม่พลาด ให้ทีมนำ 1-0 ก่อนที่ในนาที 8 เฮนเดอร์สันจะได้บอลจากซาลาห์ แล้วปั่นบอลโค้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

หลังจากเจ้าบ้านเสียสองประตูให้ทีมเยือนในช่วง 9 นาทีแรกของเกม จึงพยายามดันเกมขึ้น และบุกอย่างหนัก ทำให้เนโก้ต้องเข้ามาสกัดบอลในจังหวะสุดท้ายในกรอบ ในนาที 19 ได้อย่างทันควัน

ในนาที 25 ไบรท์ตันได้ยิง แต่กรรมการเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน และในนาที 27 ไบรท์ตันได้สวนกลับ แต่อลิสสันออกมาปิดมุมเซฟได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ลิเวอร์พูลยังควานหาประตูที่ 3 และเกือบทำได้ในนาที 32 เมื่ออ้อกซ์ได้บอลในกรอบ ก่อนจิ้มให้เฟอร์มิโน่ด้วยน้ำหนักที่พอดี แต่น่าเสียดายที่จัหวะสุดท้ายที่เฟอร์มิโน่จิ้มบอลกลับโดนสกัดไว้

ไบรท์ตันยังพยายามทำบอลขึ้นมา และเมาเปย์ได้พาบอลเข้าไปในกรอบก่อนยิง แต่หลุดเส้นหลังออกไปในนาที 34 ก่อนที่ในนาทีต่อมาจะได้จังหวะยิงอีกแต่โกเมซพุ่งเข้ามาบล็อก

แต่เป็นทรอสซารด์ของไบรท์ตันที่มาทำประตูตามมาให้ไบรท์ตัน เมื่อได้บอลในกรอบและวอลเลย์จ่อๆ อลิสสันหมดสิทธิ์รับ ก่อนกรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 4 นาที

เกมในครึ่งหลัง

ก่อนเริ่มครึ่งหลัง คล็อปป์ส่งโรเบิร์ตสันมาแทนวิลเลียมส์ และในนาที 54 ซาลาห์ได้โอกาสในเกมอีกครั้ง จากเกมสวนกลับหลังเกอิต้าแทงบอลให้ ก่อนลากจี้เข้าไปยิง แต่ถูกเซฟ ก่อนที่ในนาที 57 ดังค์จะเข้าบล็อกลูกยิงของอ็อกซ์ไว้ได้อีก

ลิเวอร์พูลรอดการเสียประตูในนาที 60 เมื่อเบิร์นสอดขึ้นมารับบอลโล่งๆ ก่อนยิง แต่ไวจ์นัลดุมโผมาสกัดออกไปก่อนที่บอลจะเข้าประตู

คล็อปป์ส่งมาเน่ และฟาบินโญ่ มาแทนอ็อกซ์ และเกอิต้า ในนาทีต่อมา แต่มาเน่รับใบเหลืองจากการฟาวล์แลมตีในนาที 63

ลิเวอร์พูลพยายามเล่นเกมโต้กลับ โดยฟาบินโญ่วางบอลยาวมาให้ซาลาห์เก็บบอลแล้วจี้เข้ากรอบ แต่ถูกเซฟในจังหวะสุดท้าย และในนาที 75 มาเน่ได้บอลก่อนตวัดมาให้เฮนเดอร์สันที่เติมเข้ามาในกรอบแล้วยิงแต่ไม่เข้า แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่ 3 ได้ในที่สุดในนาที 76 ในจังหวะเตะมุมต่อมาที่ซาบาห์เข้าโฉบไปที่เสาแรกและโหม่งเข้าไป ลิเวอร์พูลนำ 1-3 และซาลาห์ได้ลุ้นแฮตทริก

คล็อปป์เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายในนาที 87 โดยส่งมินามิโนะมาแทนเฟอร์มิโน่

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 6 นาที

ซาลาห์ได้ลุ้นประตูแฮตทริกในนาที 90+4 แต่บอลจังหวะสุดท้ายโด่งออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่ลิเวอร์พูลได้บุกอีกครั้งจากลูกเตะมุม ก่อนที่ในวินาทีสุดท้ายของเกม มินามิโนะจะได้บอลลากเข้าไปในกรอบ แต่ไม่มีมุมยิง และซาลาห์ได้โอกาสโหม่งโล่งๆ แต่กดไม่ลง และนั่นก็เป็นจังหวะสุดท้ายในเกมนี้ที่ลิเวอร์พูลลงใต้ไปเก็บสามแต้มรวมเป็น 92 คะแนนแล้ว