Match Report: ลิเวอร์พูลเสมอเบิร์นลีย์ 1-1

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, วิลเลียมส์, โกเมซ, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, โจนส์, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, ลอฟเรน, เกอิต้า, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มินามิโนะ, ชากิรี, โอริกี, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และเอลเลียตต์

จังหวะสำคัญในเกม

• นาที  34 โรเบิร์ตสันโหม่งให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
• นาที 69 โรดริเกซยิงตีเสมอให้เบิร์นลีย์ 1-1

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 35 ของพรีเมียร์ลีก โดยในเกมนี้เป็นเกมรองสุดท้ายที่แอนฟิลด์ ซึ่งก่อนเกมเริ่มมีการยืนไว้อาลัยให้กับแจ็ค ชาร์ลตัน อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1966 ซึ่งเสียชีวิตในวันนี้
ทีมเจ้าบ้านทำได้ใกล้เคียงที่สุดในนาที 11 เมื่อโรเบิร์ตสันได้บอลก่อนป้ายเข้ากลางแบบไม่จับให้ซาลาห์ที่สอดเข้ามาเข้าฮอร์ส แต่บอลโด่งข้ามคาน จากนั้นซาลาห์โดนเข้าสกัดในนาที 14 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก แต่ซาลาห์ยิงข้ามคาน

จากจังหวะข้ามบอลของเฟอร์มิโน่ในนาที 17 ทำให้โจนส์ที่ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกเป็นตัวจริงนัดแรกได้โอกาสยิงแต่ถูกเซฟ ก่อนที่ในนาที 18 ซาลาห์ได้วอลเลย์แบบไม่จับ โป๊ปปัดไว้ได้อย่างหวุดหวิด

ลิเวอร์พูลยังบุกเป็นระลอก และโจนส์ได้โอกาสยิงอีกครั้ง แต่ก็แฉลบออกหลังในนาที 21
แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อโรเบิร์ตสันฉีกตัวมารับลูกเปิดของฟาบินโญ่ก่อนสะบัดโหม่งเข้ามุมที่เสาไกลอย่างสวยงาม

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 2 นาที ก่อนที่นาที 45+2 มาเน่จะได้โอกาสยิงในกรอบ แต่โป๊ปยังเซฟไว้ได้อีกครั้ง และกรรมการเป่าจบครึ่งแรก

เกมในครึ่งหลัง

เริ่มเกมในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเกือบทำประตูแรกในแอนฟิลด์ฤดูกาลนี้ แต่โชคร้ายที่ลูกยิงชนเสาในนาที 48 และในนาที 50 โจนส์ได้โอกาสยิงเช่นกัน แต่บอลไม่เข้ากรอบ
โรดริเกซได้โอกาสขึ้นโหม่งในนาที 56 อลิสสันออกแรงเซฟก่อนที่กรรมการจะยกธงล้ำหน้า

จากจังหวะขลุกขลิกหน้าประตูในนาที 62 จบลงด้วยลูกยิงของซาลาห์ที่ไม่เข้ากรอบ

คล็อปป์ส่งเกอิต้า และเทรนต์ มาแทนโจนส์ และวิลเลียมส์ ในนาที 69 แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที โรดริเกซก็ทำประตูตีเสมอโดยยิงผ่านมืออลิสสันเข้าไป

โกเมซได้รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์ในนาที 80 ก่อนที่นาที 81 คล็อปป์จะส่งอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนมาแทนไวจ์นัลดุม

ในช่วง 4 นาที สุดท้ายเบิร์นลีย์โหมบุก อลิสสันต้องออกมาตัดบอล ก่อนที่จะยิงในระยะ 12 หลา แล้วไปชนคาน และในนาทีต่อมาซาลาห์กำลังจะพาบอลโต้กลับ แต่ถูกทำฟาวล์ไว้ก่อน

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที

ซาลาห์พลาดโอกาสสำคัญในการทำประตูท้ายเกมนาที 90+3 เมื่อรออยู่ในกรอบ และได้บอลจากเทรนต์ก่อนยิงไปตรงตัวโป๊ป

และนั่นเป็นจังหวะสุดท้ายของเกม