จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เชื่อว่า ความสำเร็จในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูลถูกทำให้หอมหวานยิ่งขึ้น เพราะความยากลำบากที่เขาและเพื่อนร่วมทีมของเขาต้องเอาชนะเพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ

เฮนเดอร์สัน ผู้ซึ่งสืบทอดตำแหน่งกัปตันทีมต่อจากสตีเวน เจอร์ราร์ดในปี 2015 ได้กลายเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลคนแรกที่ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก เป็นจุดสิ้นสุดการรอคอยแชมป์ลีกที่ยาวนานถึง 30 ปี

พิจารณาถึงเส้นทางของเขาเองสู่โอกาสอันสำคัญอย่างยิ่งในคืนวันพุธ มิดฟิลด์หมายเลข 14 รู้สึกถึงช่วงเวลาแห่งความยากลำบากที่ทำให้บุคคลหนึ่งแข็งแกร่งขึ้น และทำให้แน่ใจว่าชัยชนะนั้นน่าพึงพอใจยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันจึงมีความหมายอย่างมาก” เฮนเดอร์สันกล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับเว็บทางการของสโมสร

“ไม่มีใครเห็นส่วนที่ยากลำบาก ไม่มีใครเห็นงานหนักที่อยู่เบื้องหลังและสิ่งที่คุณได้ผ่านมา ไม่แค่ในแง่ส่วนบุคคลนอกสนาม แต่ยังรวมถึงตลอดอาชีพของคุณในสนามด้วย ไม่มีใครได้เห็นในด้านนั้น”

“การผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยผ่านมา และเด็ก ๆ ทุกคนด้วย นั่นคือสิ่งที่ทำให้มันยิ่งพิเศษและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกเมื่อคุณทำไปจนถึงจุดที่บรรลุความฝันของคุณ”

“นั่นคือเหตุผลที่ผมมีความสุขมาก เพราะผมเห็นว่างานที่เด็ก ๆ ทำในทุกวันมันยากแค่ไหน ผมเห็นเรื่องราวที่แตกต่างจากจุดที่พวกเขาเคยเป็นมา และเห็นว่ามันยากแค่ไหนสำหรับพวกเขา”

“ดังนั้น เมื่อผมเห็นพวกเขาชูถ้วยแชมป์ ไม่ว่ามันจะเป็นพรีเมียร์ลีก, แชมเปียนส์ลีก สโมสรโลกหรือซูเปอร์ คัพ ที่พวกเขาคว้ามันมาได้ ผมภาคภูมิใจกับสิ่งที่พวกเขาทำมาอย่างมาก และรู้สึกถ่อมตนมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน”

“ผมแค่ต้องการให้พวกเขาไปต่อจากจุดนั้น และผมมั่นใจว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้น ผมเห็นพวกเขาในโรงยิม ผมเห็นพวกเขาทำงานหนักเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้ ทุก ๆ วันที่สนามซ้อมแห่งนั้น”

“ถ้าเรายังอยู่ด้วยกันและทำสิ่งนั้น ผมก็มั่นใจว่าเราจะมีความทรงจำที่มีความสุขยิ่งกว่าที่จะเข้ามาในอนาคต”

เมื่อถูกถามว่ามีความล้มเหลวที่เขารู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุดที่กลับมาเอาชนะได้หรือไม่ มิดฟิลด์หมายเลข 14 ตอบว่า “มีอยู่มากมายทีเดียว”

“มีจุดตกต่ำอยู่มากมาย ความปราชัยมากมายตลอดอาชีพและชีวิตของผมที่มันจะไม่เป็นสิ่งที่ผมอยากมอง”

“ทุกอย่างเป็นไปอย่างมีเหตุผล ผมผ่านทั้งหมดนั่นมาได้ด้วยเหตุผลเดียว : เพื่อเข้าให้ถึงจุดนี้ มันทำให้มันยิ่งพิเศษในตอนนี้ว่าผมได้จัดการเพื่อให้บรรลุความฝันของผมและมันยังมีอีกมากที่จะตามมา มันยังมีอีกมากที่ผมต้องการจะประสบความสำเร็จและนั่นก็เป็นไปเพื่อพวกเราทุกคน”

“ผมต้องการอีกมาก และคุณจะไม่มีวันลืมจุดตกต่ำ มันเป็นสิ่งที่ผลักดันคุณและมอบแรงจูงใจและพลังงานพิเศษให้คุณ”

“ผมจะไม่มีวันลืมเรื่องนั้น ไม่สำคัญว่าเราจะคว้าแชมป์ได้อีกมากขนาดไหน คุณจะจำได้เสมอและมันยังคงเจ็บปวดเสมอ เป็นช่วงเวลาหนึ่งในอาชีพและในชีวิตของคุณ”

“ผมจะใช้มันเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผมทำให้มากขึ้นและต้องการจะเป็นให้ดีขึ้นเสมอ”

พูดถึงการชูถ้วยแชมป์ด้วยตัวเขาเอง เฮนเดอร์สันเอาชนะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าเพื่อขึ้นไปชูถ้วยด้วยท่าอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา

นักเตะหมายเลข 14 ยังถูกถามซ้ำจากบรรดาเพื่อนร่วมทีมเกี่ยวกับท่าชูถ้วยเฉพาะตัวของเขา

นักเตะเจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวให้รายละเอียดว่า “ใช่ พวกเขาถามตรง ๆ เลย ผมถูกกดดันเลยล่ะ! เจ้านายตรงเข้ามาหาผมและพูดว่าส่วนแรกของการฟื้นฟูคือการซอยเท้าชูถ้วยนะ”

“ผมได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมสามารถทำได้ตลอดสองสัปดาห์ล่าสุดเพื่อให้พร้อมแต่ ขอบคุณมาก ๆ เลย นักกายภาพบำบัดทำให้ผมพร้อมและผมก็จัดการทำมันได้”

“(ถ้วยรางวัล) หนักทีเดียวล่ะ ใช่แล้ว ถ้าคุณเข้าไปและยกมันขึ้นในตอนนี้ มันจะรู้สึกค่อนข้างหนัก แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่ออะดรีนาลีนหลั่งทั่วร่างกายและอารมณ์ของคุณ มันกลับเบาอย่างกับขนนกเลย”