เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คว้ารางวัลดาวรุ่งแห่งปีของพีเอฟเอประจำฤดูกาล 2019-20

แบ็กขวารายนี้ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกทุกเกมให้กับลิเวอร์พูลที่คว้าแชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว โดยคว้ารางวัลอันทรงเกียรติที่เป็นรางวัลส่วนบุคคลมาครองอีกรางวัลหลังจากได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมอาชีพ

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นนักเตะหงส์แดงคนแรกนับตั้งแต่สตีเวน เจอร์ราร์ด(2000-01) ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ และเป็นคนที่ 5 ตั้งแต่มีการประกาศรางวัล โดยคนอื่นๆ ที่เหลือคือเอียน รัช (1982-83), ร็อบบี ฟาวเลอร์ (1994-95 และ1995-96) และไมเคิล โอเว่น (1997-98)

เขาชนะรางวัลนี้ที่มีรายชื่อคู่แข่งลุ้นรางวัลอย่างแทมมี่ อบราฮัม, เมสัน กรีนวู้ด, เมสัน เมานท์, มาร์คัส แรชฟอร์ด และบูกาโย่ ซาก้า

"การเป็นส่วนหนึ่งในรายชื่อจากที่ผมเเคยเห็นที่นี่ และการเป็นส่วนหนึ่งที่ที่ได้ลุ้นถ้วยมหัศจรรย์อย่างนี้ และได้รับมันมาครอง มันนับเป็นเกียรติอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับผม และครอบครัวของผม มันเป็นสิ่งที่เราจะภาคภูมิไปตลอด"นักเตะวัย 21 ปีกล่าวหลังรับมอบถ้วยรางวับ

"รางวัลประเภทนี้ที่มันมาจากการโหวตของคนอื่นๆ ที่ลงปะทะกับคุณ และอาจจะชื่นชอบ หรือให้ความเคารพเรื่องต่างๆ ที่คุณทำในสนามเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก"

"ผมต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งกับคนเหล่านี้ที่โหวตให้กับผม และคิดว่าผมสมควรได้ถ้วยใบนี้ ผมต้องขอขอบคุณพวกเขาเป็นอย่างมาก มันถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผมที่คว้ารางวัลนี้ และมันจะเป็นสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืม"

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ทำไป 4 ประตู และ 13 แอสซิสต์ในลีกสูงสุดที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ด้วยการเก็บ 99 แต้ม และทำลายสถิติแอสซิสต์ของกองหลังในหนึ่งฤดูกาลที่ตั้งไว้ด้วยตัวเขาเองในปีก่อนหน้านั้น

นักเตะทีมชาติอังกฤษช่วยให้สโมสรวัยเด็กของเขาชูถ้วยยูฟา ซูเเปอร์ คัพ และฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ สมัยแรกของสโมสรหลังจากนั้นในปี 2019 ก่อนคว้าแชมป์ลีกในช่วงซัมเมอร์

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ยังคว้ารางวัลดาวรุ่งแห่งปีของพรีเมียร์ลีกในเดือนที่แล้วเช่นกัน ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อลุ้นรางวัลนักตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกสูงสุด และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอด้วย และเขายังเป็นหนึ่งในหน้านักเตะหงส์แดงที่ติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำปีของพีเอฟเอ จากการประกาศในวันอังคารที่ผ่านมา

"ชัดเจนว่าอย่างแรกผมต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ และครอบครัวของผม ทุกคนที่ช่วยให้ผมคว้ารางวัลนี้ และมาถึงจุดนี้"เด็กปั้นจากอะคาเดมีกล่าวเสริม

"ถ้าไม่มีพวกเขาคงจะไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาคอยอยู่กับผมตอนที่เราแพ้ และพวกเขาคอยช่วยเหลือผมให้ผ่านเกมเหล่านั้นไปได้ และช่วยให้ผมรักษาสมาธิ และก้าวต่อไป ผมต้องขอขอบคุณพวกเขา"

"ทุกคนที่อะคาเดมีสำหรับ 10-12 ปีที่ผมอยู่ที่นั่น ที่สอนผมอย่างจริงจังทุกอย่าง และช่วยเหลือผมตลอดเส้นทาง ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพ และชีวิตวัยเด็กของผมอยู่ที่อะคาเดมีวันแล้ววันเล่า ผมต้องขอบคุณผู้คนเหล่านี้ที่คอยหล่อหลอมให้ผมกลายเป็นคนอย่างในทุกวันนี้"

"ทีมงาน และผู้จัดการทีม และคนอื่นๆ ที่ให้โอกาสผมในการทำสิ่งต่างๆ ให้ลุล่วง หากไม่มีโอกาสแบบนี้คงไม่มีใครจะประสบความสำเร็จอะไรได้ ดังนั้นผมต้องขอบคุณทีมงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้จัดการทีมสำหรับเรื่องนี้"

"และแน่นอนว่าเพื่อนร่วมทีมของผม หากไม่มีพวกเขามันคงไม่มีทางเป็นไปได้ สิ่งต่างๆ ที่เราประสบความสำเร็จในฐานะทีมมันน่าเหลือเชื่อมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีช่วงเวลาเหล่านี้ตามมาอีกมากมาย"