เส้นทางอาชีพของดิโอโก้ โชต้า นับจนถึงตอนนี้

โชต้าเซ็นสัญญากับทีมแชมป์ที่แอนฟิลด์ในวันเสาร์ และเลือกสวมเสื้อหมายเลข 20 กับทีมใหม่ กลายเป็นนักเตะรายที่ 3 ที่หงส์แดงเซ็นคว้ามาร่วมทีมในฤดูกาล 2020-2021

อ่านโปรโฟล์ในอาชีพของนักเตะชาวโปรตุเกสก่อนจะมาถึงลิเวอร์พูลได้ด้านล่างนี้...

โชต้าเกิดในปอร์โต้เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1996 โดยก้าวแรกสู่เกมอาชีพของเขากับทีมใกล้ๆ อย่างปากอส เดอ เฟร์เรยร่า ที่เขาประเดิมทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี

เกมแรกของเขาเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมในฤดูกาล 2014-15 ในโปรตุกีส คัพ และกองหน้ารายนี้ยังทำได้หนึ่งประตู และหนึ่งแอสซิสต์

พัฒนาของดิโอโก้เพิ่มขึ้นจากโอกาสลงสนามในเกมลีกช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล และเขาลงเล่นในลีกสูงสุด 8 เกมในฤดูกาลแรก และทำไป 2 ประตูในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

เขาต่อยอดฟอร์มการเล่นในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยแสดงให้เห็นพัฒนาการอย่างชัดเจน เมื่อเขาพลาด เกมพรีเมยร่า ลีกา และทำประตูครบหนึ่งโหล ช่วยให้ทีมของเขาจบด้วยอันดับที่ 7

ความสามารถที่โชต้าแสดงออกมาทำให้ได้รับความสนใจอย่างมาก และเป็นทีมแอตเลติโก้ มาดริด ที่คว้าตัวเขาได้ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 แม้ว่าเขาจะไม่ได้โอกาสลงเล่นให้ทีมจากสเปนแม้แต่เกมเดียว

แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เขาเกือบจะย้ายกลับบ้านเกิดในทันที โดยเป็นการไปอยู่กับเอฟซี ปอร์โต้ในสัญญายืมตัวที่เขาได้ร่วมงานกับนูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้เป็นครั้งแรก

ดิโอโก้ทำไป 8 เกมพรีเมยร่าจาก 27 เกมที่ลงเล่นให้กับเดอะ ดราก้อนส์ ที่ได้รองแชมป์ตามหลังเบนฟิก้าในลีก แม้ว่าจะแพ้แค่ 2 เกมตลอดทั้งฤดูกาล

เขายังได้รับประสบการณ์ลงเล่นในแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาลดังกล่าว โดยลงเล่น 8 เกม และทำไปหนึ่งประตู โดยเป็นเกมชนะเลสเตอร์ ซิตี้  ก่อนถูกเขี่ยตกรอบในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

หลังจากนั้นนูโน่อำลาปอร์โต้ และไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาได้รับการแต่งตั้งให้สานต่อความทะเยอทะยานในโปรเจ็กต์ของวูล์ฟส์ โชต้าตามโค้ชของเขามาที่โมลินิวซ์ หลังจากตกลงยืมตัวจากแอตเลติโก้เกิดขึ้นอีกครั้ง

มันเป็นความลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ

ตัวรุกรายนี้เป็นส่วนสำคัญในการพาวูล์ฟส์ออกจากเดอะ แชมเปียนชิพ ภายใต้การคุมทีมของนูโน่ โดยสร้างสถิติทำประตูสูงสุดของทีมที่ 17 ประตูในดิวิชั่นที่พวกเขาเก็บได้ถึง 99 แต้ม และคว้าแชมป์อย่างน่าประทับใจ

ส่วนใหญ่เขาจะรับหน้าที่ทางฝั่งซ้าย แต่ยังสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง และตามแท็กติกที่วางไว้ โชต้าที่ย้ายแบบยืมตัวกลายเป็นการซื้อตัวถาวรในปี 2018 และยังเป็น 11 ตัวจริงของสโมสรที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่องตามความต้องการในลีกสูงสุด

เขา และทีม ประสบความสำเร็จในการก้าวขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอย่างไร้ที่ติ

ดิโอโจ้ทำไป 16 ประตูตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา ที่วูล์ฟส์เก็บได้ 57 และ 59 แต้มตามลำดับ โดยจบฤดูกาลด้วยอันดับ 7 ทั้งสองฤดูกาล

นักเตะชาวโปรตุเกสยังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในยุโรปเพิ่มเติมในการเจอกับทีมชั้นนำ โดยทีมของงนูโน่ที่เริ่มต้นฤดูกาล 2019-20 ด้วยการลงเล่นยูโรปา ลีก รอบคัดเลือก ในเดือนกรกฎาคม และสิ้นสุดมันใน 13 เดือนต่อใมาในรอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยการแพ้ต่อเซบีย่าทีมที่เป็นแชมป์ประจำรายการในท้ายที่สุด

โชต้าทำไป 9 ประตูจาก 14 เกมของเขาในรายการนี้ รวมถึง 2 แฮตทริกที่เขาทำได้ในเกมกับเบซิคตัส และเอสปันญ่อลที่โมลินิวซ์

ในฤดูกาลที่แล้วดิโอโก้ยังได้ประเดิมทีมชาติชุดใหญ่เช่นกัน โดยลงเป็นตัวสำรองในเกมที่โปรตุเกสถล่มลิทัวเนีย 6-0 ในเดือนพฤศจิกายน และต้นเดือนนี้เขาทำประตูแรกในทีมชาติมาสดๆ ร้อนๆ ในเกมชนะโครเอเชีย 4-1

ตอนนี้นักเตะวัย 23 ปีก้าวมาอีกขั้นในอาชีพของเขา โดยร่วมงานกับทีมของคล็อปป์ที่พวกเขาพยายามจะต่อยอดจากการคว้าถ้วย 4 ใบ นับตั้งแต่มิถุนายน 2019