เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้อธิบายถึงฟอร์มของโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ความหมายของเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ และความท้าทายในการต่อสู้เพื่อกลับมาก่อนเกมที่จะพบกับเอฟเวอร์ตันในวันเสาร์นี้

เฟอร์มิโน่ยังคงทำประตูให้ลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2020-21 ไม่ได้ แต่ทำ 2 ประตูให้กับบราซิลระหว่างช่วงพักเบรกทีมชาติ และอยู่ในสภาพร่างกายที่ดีเยี่ยม ตามคำกล่าวของผู้จัดการทีม

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลจะข้ามสแตนลีย์ พาร์ก เพื่อเผชิญหน้ากับเอฟเวอร์ตัน หลักพ่ายแพ้หมดท่าต่อแอสตัน วิลล่า ในเกมพรีเมียร์ลีกเกมล่าสุดของพวกเขา

นี่คือการให้สัมภาษณ์ก่อนเกมของผู้จัดการทีม...

ความจริงที่ว่าเฟอร์มิโนยังไม่ได้ทำประตูเลยในฤดูกาลนี้ และเมื่อไหร่ที่เรื่องนั้นจะกลายเป็นปัญหา...

ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มันจะกลายเป็นปัญหาสำหรับผมนะ สำหรับผมแล้ว มันไม่ได้แม้แต่จะใกล้เคียงเลยที่จะกลายเป็นปัญหา มันมีสิ่งที่ผมแตกต่างออกไปจากโลกข้างนอก ถ้าผมจะมานั่งพิพากษาจังหวะโอกาสต่าง ๆ มากเท่าที่คุณทำล่ะก็ จังหวะต่าง ๆ นั้นต้องไม่ใช่แค่หนึ่งนาทีหรือหนึ่งเกมหรือสองเกม หรือกระทั่งสามเกม จังหวะโอกสอาจเป็นช่วงเวลาเลย สำหรับผม มันสำคัญที่ว่านักเตะมีอิทธิพลอย่างไร มันดีสำหรับทีมอย่างไร ตอนนี้ เราแพ้เกมพีเมียร์ลีกเกมล่าสุด เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านั้นที่เราชนะเกมพรีเมียร์ลีกมาทั้งหมด และบ็อบบีไม่ได้ทำประตู แต่บ็อบบีมิทธิพลอย่างเหลือเชื่อ

มันชัดเจนเสมอนะเมื่อนักเตะแบบบ็อบบี ถ้าเขาไม่ได้ทำประตูและผู้คนเริ่มต้นมุ่งเป้าไปที่เรื่องนั้น แล้วคุณจะตระหนักว่าแม้แต่ที่เขาเสียบอลไปหลายครั้ง คุณก็จะเพิ่มเข้าไปอีกว่า เขาไม่ได้ทำประตูและเสียบอลและอะไรต่าง ๆ ทั้งหมด ทั้งหมดในทันที คุณพูดถึงว่า “นั่นคือบ็อบบี เฟอร์มิโน งั้นเหรอ?” ใช่ นั่นแหละ ผมอยู่ในการฝึกซ้อม เขาทำสองประตูให้บราซิล เขาอยู่ในสภาพร่างกายที่ดีเยี่ยม ด้วยความสัตย์จริง และจะเล่นได้นานเท่าที่เขาจะสามารถเล่นได้เลย

มันเป็นปกติที่คุณจะโต้เถียงมัน เราเถียงกันเรื่องฟอร์มการเล่น ทั้งส่วนบุคคลและฟอร์มของทีม แต่ไม่ใช่ในวิถีทางเดียวกับคุณ เห็นได้ชัดเลย ใช่ เราต้องการให้เขาทำประตู เราต้องการให้เขากลับมาสู่ตำแหน่งที่เขาสามารถทำประตูได้ ใช่ เขาสามารถทำประตูได้ ยกตัวอย่างนะ ในเกมกับวิลล่า ช่วงต้นเกมและอีกมากมาย 2 ครั้ง แน่นอนเลย ผมรู้เรื่องนั้น และเขาก็ไม่ได้ชอบแบบนั้น ผมไม่ชอบมัน แต่ที่แน่ ๆ มันก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผมคิดถึงเมื่อผมคิดเกี่ยวกับบ็อบบี

ความสำคัญของฟุตบอลในวงกว้างต่อเมอร์ซีย์ไซด์ในระหว่างช่วงการระบาดของโควิด-19...

ผมชอบคิดว่าฟุตบอลที่นี่เป็นจุดสำคัญอย่างมากเสมอ ๆ ในเมือง ผมมั่นใจมากเลยว่ามันเป็นแบบนั้น แต่คุณพูดถูก ผมคิดว่าเดือนที่ผ่านมา เราได้พูดคุยกัน ฟุตบอลยังจำเป็นจริงหรือ? ฟุตบอลมีบทบาทในสังคมจริง ๆ หรือ? เห็นได้ชัดจากมุมมองที่เป็นความเชื่อ ความรู้สึก ผมมั่นใจมาก ๆ ว่ามันเป็น ขณะเดียวกัน เรารู้ว่าเป็นเหมือนแบบนี้ เรามีบทบาทสำคัญ ฟังนะ เห็นได้ชัดว่าผู้คนในเมืองคุ้นเคยกับการรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก

สิ่งที่ผมเห็น หรือสิ่งที่ผมได้ยิน และเห็นได้ชัดว่าผมไม่ได้ใช้ชีวิตในศูนย์กลางของเมือง และผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามันดูเป็นยังไงที่นั่น แต่ตามปกติเมื่อสิ่งแย่ ๆ เกิดขึ้น เมืองนี้จะมาร่วมแรงร่วมใจกัน และพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราพยายามจากมุมมองของฟุตบอล แน่นอน ถ้าเราจะเล่นกับแมน ซิตี้ ในตอนนี้ ยกตัวอย่างนะ ในวันสุดสัปดาห์ มันจะมีความสำคัญ (ฟุตบอล)เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ในตอนนี้ เพราะเราทั้งสองสโมสรจากเมือง ใช่ ทั้งเมืองคือหนึ่งเดียวและดูเกมฟุตบอลเกมเดียว และไม่ใช่สอง จากมุมมองนั้น คุณอาจจะพูดถูก มันสำคัญมาก

ความท้าทายของการต่อสู้เพื่อกลับมาหลังจากสองสัปดาห์โดยปราศจากเกมฟุตบอลระดับสโมสร...

ผมไม่รู้ เราจะเห็นมันเอง มันยาก แน่นอนล่ะ พวกเขาทั้งหมดทิ้งเกมในคืนวันอาทิตย์ หลังเกมที่วิลล่า และพวกเขาส่วนใหญ่ต้องเล่นสามเกม พวกเขาเล่นในระบบที่แตกต่างและมีเหตุผลที่แตกต่างที่จะชนะเกม หนึ่งคือการผ่านการคัดเลือก สำคัญมาก ๆ อย่างสกอตแลนด์ต้องผ่านเพื่อไปยูโรรอบสุดท้าย แล้วมันก็เป็นเกมเนชันส์ ลีก อย่างเมื่อฮอลแลนด์เล่นกับอิตาลี และนั่นคือเกมสำคัญ

แล้วพวกเขาก็กลับมา และคุณมีเวลาแค่เล็กน้อย แต่เราอยู่ด้วยกันมานานพอที่เราจะรู้ว่าทำเรามาอยู่ด้วยกัน เหตุผลเดียวคือเพื่อประสบความสำคัญและชนะเกมฟุตบอล แต่เห็นได้ชัดว่ามันคือความท้าทายที่จะนำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มารวมกัน พวกเขาทั้งหมดมีสถานการณ์ที่แตกต่าง บ้างประสบความสำเร็จ บ้างก็ประสบความสำคัญน้อยลงและสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด แต่ฟุตบอลก็เป็นแบบนั้นเสมอ นั่นไม่ใช่ข่าวใหม่

คุณชอบที่จะชนะเกมทั้งหมดก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ เพราะมันจะทำให้ช่วงพักเบรกทีมชาติง่ายขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้เกมถัดไปง่ายขึ้น เพราะคุณยังต้องเตรียมเกม และการชนะเกมก่อนไม่ได้ทำให้มันชนะเกมถัดไปมากขึ้น ดังนั้น มันหมายถึงว่าเรามีโอกาสเหมือนกันหรือบางทีด้วยสองสามเหตุผล ผมยินดีกับเรื่องนั้น เห็นได้ชัดว่า ผมพยายามจะช่วยเด็ก ๆ ให้กลับมาสู่อารมณ์ที่เหมาะสม ถ้ามันได้ผล คุณสามารถเห็นได้ในวันพรุ่งนี้

ความพ่ายแพ้ในเกมที่วิลล่าสามารถเป็นประโยชน์ได้อย่างไรในอนาคต...

ฟังนะ ความท้าทายในสถานการณ์นี้ คือว่า คุณไม่ต้องการให้บรรดานักเตะได้รับผลกระทบหรือได้รับอิทธิพลในเกมถัดไป คุณต้องการมีทีมที่มั่นใจในตัวเอง คุณไม่ต้องการจะมีทีมที่จิตตกและอะไรต่าง ๆ แบบนี้ ในอีกด้าน คุณไม่ต้องการจะลืมเกมนั้นด้วย และการแพ้ 7-2 ช่วยเรื่องนั้นได้มาก ที่คุณจะไม่ลืมมัน คุณคิดจริง ๆ และเข้าใจความรู้สึกนั้นมากขึ้นระหว่างชั่วโมงหลังเกม นั่นอาจเป็นหลังจากสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นบวกทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเรา มันต้องการการตีแสกหน้าเพื่อให้เราก้าวผ่านมันไป

ผมไม่ได้มั่นใจเรื่องนั้น 100% แต่นั่นคือวิถีทางที่ผมรับมือกับมัน กับเรื่องนี้ มันเป็นไปแล้วก็โอเคนะ เพราะมันไม่มีเหตุผลอื่นว่าทำไมแพ้ 7-2 ถึงควรเนเรื่องดี แต่ถ้ามันเป็นเพื่อเรื่องนั้น แล้วมันก็สามารถเป็นเกมสำคัญที่สุดในฤดูกาล นั่นคือสิ่งที่เราพยายาม และนั่นคือเหตุผลที่เราพยายามจะใช้มัน เราจะดูกัน เอฟเวอร์ตันชนะเกมล่าสุดก่อนเกมทีมชาติ เราแพ้ นั่นคือความแตกต่างที่สำคัญ เรายิ่งเข้าใกล้วันพรุ่งนี้มากขึ้น และตอนนี้ เรามีอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนพรุ่งนี้ มันก็ยิ่งมีอิทธิพลน้อยลง หรืออาจไม่มีอีกต่อไป

ทั้งสองทีมต่างก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่ สภาพที่สมบูรณ์แบบบางทีอาจเป็นเอฟเวอร์ตันในช่วงก่อนพักเบรกทีมชาติไม่ได้เกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ และปัญหาของเราที่เรามีในเกมกับแอสตัน วิลล่าก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดแบบอัตโนมัติเช่นกัน เราสามารถแตกต่างออกไปจากเกมกับวิลล่าได้ และนั่นคือสิ่งที่เราพยายาม และเราคือทีมที่ผู้คนไม่ชอบเล่นด้วย ไม่ว่าคุณเป็นใคก็ตาม นั่นจะหมายถึงเช่นเดียวกันสำหรับเอฟเวอร์ตัน ด้วยความเคารพต่อพวกเขา ผมต้องพูดว่า มันดีมากกับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่นั่นคือในท้ายที่สุด มันคือเกมฟุตยอล และเราก็มีโอกาส เราไม่เคยมีมากกว่านั้น