ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มสุดยอดในการเอาบุกเอาชนะคริสตัล พาเลซ 7-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกช่วงเที่ยงของวันเสาร์ที่ผ่านมา

โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำคนละสองประตูในเกมที่ทางใต้ของลอนดอน ในขณะที่ทาคุมิ มินามิโนะ, ซาดิโอ มาเน่ และจอร์แดน เฮนเดอร์สันต่างมีชื่อทำประตูให้หงส์แดง

และกับสกอร์ที่พิเศษนี่คือ 7 ประเด็นที่น่าสนใจจากเกมดังกล่าว…

จ่าฝูงในวันคริสต์มาส

สามคะแนนที่ได้ในเกมนี้แปลว่าลิเวอร์พูลจะนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในวันคริสต์มาสเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากทำหลายประตูสุดสวยในเซลเฮิร์สต์ พาร์ก

ประตูที่สวยที่สุดอาจจะเป็นลูกที่สาม เมื่อเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ชิพบอลให้เฟอร์มิโน่จากตำแหน่งแบ็กขวา ก่อนที่จะไหลต่อให้แอนดี โรเบิร์ตสันทางด้านซ้าย

โรเบิร์ตสันพาบอลขค้นไป ก่อนที่จะจ่ายกลับมาในเขตโทษอย่างสมบูรณ์แบบให้เฟอร์มิโน่ที่ตามขึ้นมาอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยพังประตู ก่อนที่เฮนเดอร์สันจะปั่นบอลสุดสวยเข้าไปอีกในครึ่งหลัง

แต่อีกประตูของซาลาห์ก็งดงามไม่แพ้กัน โดยเป็นลูกที่สองของนักเเตะรายนี้จากระยะไกลเสียบสามเหลี่ยมแบบที่ผู้รักษาประตูหมดสิทธิ์รับ

สถิติใหม่ๆ มากมาย

มันเป็นเกมที่ 127 ที่ทีมของคล็อปป์เก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก และเป็นครั้งแรกที่สโมสรสร้างผลต่าง 7 ประตูในพรีเมียร์ลีกทำลายสถิติของราฟาเอล เบนิเตซ

ประตู 7-0 ของซาลาห์ นับเป็นลูกที่ 600 ของลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของคล็อปป์ หลังผ่าน 288 เกม น้อยกว่าผู้จัดการทีมทุกคนในประวัติศาสตร์ของสโมสร และทุกประตูในวันเสาร์นี้ต่างมาจากแอสซิสต์ของนักเตะที่ต่างกัน และเป็นประวัติศาสตร์ของลีกที่มีนักเตะ 7 คนแอสซิสต์ในเกมเดียว

และในขณะเดียวกันมาเน่ที่ทำประตูได้ในเกมนี้ และแสดงท่ายินดีมอบให้กับลี สวอน แฟนบอลของเขา โดยยังทำสถิติยิง 10 ประตูในการเจอกับดิ อีเกิ้ลส์ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก

ช่างเป็นวันที่น่าทึ่ง

คู่หูในจังหวะสุดท้าย

เมื่อดูจำนวนประตู และแอสซิสต์ ต้องย้ำว่าซาลาห์เป็นตัวสำรองในเกมนี้ และลงเล่นแค่ 33 นาที โดยมีส่วนกับการจ่ายบอลให้เฟอร์มิโน่ทำประตูก่อน

คู่หูของซาลาห์ชิพบอลผ่านบิเซนเต้ กวาอิต้า ซึ่งลูกจ่ายดังกล่าวเป็นประตูที่  17 ในการประสานงานของซาลาห์ และเฟอร์มิโน่ร่วมกันทำประตูในพรีเมียร์ลีกให้กับลิเวอร์พูล

ตอนนี้มีเพียงร็อบบี ฟาวเลอร์ และสตีฟ แม็คมานามานที่ประสานงานทำประตูให้กับสโมสรมากกว่าในรายการนี้ที่ 24 ประตู เราทุกคนคาดหวังว่าจะถูกลดช่องว่างอีกนับจากตอนนี้ไปจนจบฤดูกาล

การหนีการประกบ

“เราต้องไม่เสียเวลาในครึ่งแรกอีก!” เสียงตะโกนของจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ก่อนเกมชนะสเปอร์สกลางสัปดาห์จากการเปิดเผยของคล็อปป์

ลิเวอร์พูลทำอย่างนั้นในเซลเฮิร์สต์ พาร์กอีกครั้ง พวกเขาใช้เวลาเพียง 125 วินาทีในการขึ้นนำ โดยเป็นประตูนอกบ้านที่เร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่พฤศจิกายน 2014 ที่ริคกี แลมเบิร์ตใช้เวลา 90 วินาทีในการยิงพาเลซเช่นกัน

และมีหลักฐานสนับสนุนคำพูดของไวจ์นัลดุมเกี่ยวกับความสำคัญของการเริ่มเกม ตอนนี้ทีมของคล็อปป์แพ้แค่ 1 จาก 94 เกมลีกสูงสุดที่พวกเขาทำประตูแรกได้

หลักชัยสำคัญของมินามิโนะ

ครบหนึ่งปีพอดีหลังจากมินามิโนะเซ็นสัญญากับหงส์แดง ซึ่งเขาเฉลิมฉลองด้วยการทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ด้วยเวลาประมาณสองนาที เขาโชว์ฟอร์ม และแสดงความสามารถที่ทำให้ลิเวอร์พูลดึงตัวเขาจากซัลซ์บวร์ก

เจ้าของเสื้อเบอร์ 18 รับบอลจากมาเน่ในเขตโทษ ก่อนยิงหลอกหนึ่งจังหวะ และซัดเสียบมุมประตู ทำให้เขากลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนที่ 7 เท่านั้นที่ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก

แอนดีจอมแอสซิสต์

ความมุ่งมั่น และตั้งใจของโรเบิร์ตสันกับแอสซิสต์ในเกมนี้ให้กับเฟอร์มิโน่ทำประตูแรกของเขา ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นจากนักเตะรายนี้ โดยนับตั้งแต่สิงหาคม 2018  มีเพียงเควิน เดอ บรอยน์กองกลางแมนฯ ซิตี้ที่แอสซิสต์มากกว่า 28 ครั้งของโรเบิร์ตตัน

“ผมมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือทีม และแน่นอนว่า 28 แอสซิสต์เป็นเรื่องน่ายินดีมากสำหรับผม และหวังว่าจะมีอีกมากมายตามมาก”โรเบิร์ตสันให้ควาเห็น

ที่ตามหลังดาวเตะชาวสก็อตมาคืออเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ฟูลแบ็กเพื่อนร่วมทีมที่ 27 แอสซิสต์ หลังจากเพิ่มตัวเลขได้เช่นกันจากการจ่ายบอลให้เฮนเดอร์สันทำประตู

อ็อกซ์คืนสนาม

อีกแง่ดีจากผลเสมอในชัยชนะเหนืออพาเลซคือการที่อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนกลับมาลงสนาม

กองกลางรายนี้ลงเล่นแทนเฟอร์มิโน่ก่อนหมดเวลา 15  นาที ที่เป็นเกมแรกในฤดูกาลนี้นับตั้งแต่เจ็บเข่าระหว่างพรีซีซั่นในออสเตรีย

แต่เขามีส่วนกับเกมด้วยการจ่ายให้ซาลาห์ปั่นโค้งทำประตู

“กลับมาทำงานอีกครั้ง!” เขายืนยันผ่านอินสตาแกรม