จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้แสดงความชื่นชมอย่างลึกซึ้งต่อมาร์คัส แร็ชฟอร์ด เมื่อเขาเตรียมจะนำทีมลิเวอร์พูลพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บ่ายวันนี้

ในการตอบสนองต่อผลกระทบของการระบาดของโควิด 19 ต่อชุมชน แร็ชฟอร์ด ศูนย์หน้ายูไนเต็ดได้เป็นกระบอกเสียงรณรงค์ในการต่อสู้กับภาวะขาดแคลนอาหาร โดยใช้แฟลตฟอร์มของเขาในการเพิ่มการตระหนักรู้และส่งอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบาย

เฮนเดอร์สัน เพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูลและบรรดาแฟนบอลมองความพยายามของเขาด้วยความเคารพอย่างเต็มที่ โดยที่ความภักดีต่อสโมสรไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการประกาศถึงความภูมิใจในตัวแร็ชฟอร์ด

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเหล่านั้นจะถูกหยุดไว้เป็นเวลา 90 นาทีที่แอนฟิลด์ในวันนี้ เมื่อลิเวอร์พูลและยูไนเต็ดจะลงสนามแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกกัน

“ก่อนอื่น ผมจะต้องละว่างความเป็นศัตรูไว้ข้างหนึ่งเพื่อกล่าวสรรเสริญต่อนักเตะของยูไนเต็ดคนหนึ่ง และผมไม่สงสัยเลยว่าแฟน ๆ ของเราจะสนับสนุนผมโดยปราศจากคำถาม นักเตะคนนั้นคือ มาร์คัส แร็ชฟอร์ด” เฮนเดอร์สันเขียนลงในคอลัมน์ของเขาในหนังสือโปรแกรมทางการ

“สิ่งที่มาร์คัสทำมาตลอด 12 เดือนล่าสุดมันเหลือเชื่อมาก เขาต่อสู้กับการขาดแคลนอาหาร เป็นกระบอกเสียงให้เด็ก ๆ ที่ไม่มีใครและใช้ชื่อเสียงของตัวเขาเองเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ทุก ๆ คำขื่นชมที่เข้ามาสู่เขา และทุกรางวัลที่เขาได้รับเป็นผลที่ไม่ใช่แค่คู่ควร มันอาจไม่มากพอด้วยซ้ำ”

“แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ชี้ให้เห็นจุดที่ดีซึ่งหาได้ยาก เมื่อเขากล่าวว่ามาร์คัสจะกลายเป็นนักเตะยูไนเต็ดคนแรกที่ได้รับการยืนปรบมือจากฝูงชนที่แอนฟิลด์ ด้วยหลากหลายเหตุผล สิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ผมหวังว่ามาร์คัสจะรู้ว่าทุกคนที่สโมสรลิเวอร์พูลให้การยอมรับอย่างสูงต่อเขา”

“มันไม่ยุติธรรมเสมอที่บรรดานักฟุตบอลได้เปลี่ยนแปลงด้วยการเป็นตัวอย่างสำหรับสังคมที่เหลือ เราเป็นแค่นักเตะที่ยังเด็ก ผู้ซึ่งโชคดีพอที่ได้ทำงานในโลกกีฬา แต่มันไม่มีคำถามเลยว่ามาร์คัสเป็นตัวอย่างสำหรับทุกคน”

“ผมถือว่าตัวผมเองโชคดีที่มีเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมกับทีมชาติอังกฤษ แต่วันนี้ นั่นจะไม่มีความหมาย และรู้ดีว่ามาร์คัสจะไม่คิดในทางอื่น นี่คือวันแห่งการเป็นศัตรู และมันคือวันที่สำหรับพวกเราในเครื่องแบบสีแดงเพลิงของลิเวอร์พูลจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่เรามี เพื่อตัวเราเอง เพราะนั่นคือความจริงที่การแข่งขันนี้ต้องการ”

“สุดท้าย วันนี้จะเป็นครั้งแรกที่เพลง You’ll Never Walk Alone จะถูกเล่นที่แอนฟิลด์หลังการจากไปของแกร์รี มาร์สเดน คุณไม่ต้องเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล ก็รับรู้ได้ว่าเพลงนี้มีความพิเศษอย่างไรต่อทุก ๆ คน ที่เกี่ยวข้องกับสโมสรของเรา และมันไม่สำคัญเลยว่าผมเคยได้ยินมันมากี่ครั้งแล้ว มันจะทำให้ผมขนลุกเสมอ”