สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่สำหรับไลป์ซิก

ตอนนี้เมื่อปีที่แล้วสโมสรที่มีรากฐานอยู่ในเมือแซกโซนี เริ่มต้นลงแข่งขันในฟุตบอลเยอรมันดิวิชั่น 5 เพียง 12 ปีก่อน ยังไม่เคยลงเล่นในรอบน็อกเอาท์ แชมเปียนส์ลีก หรือลงเล่นเกมแข่งขันกับคู่แข่งจากพรีเมียร์ลีก

นับตั้งแต่นั้นทีมของจูเลียน นาเกลสมันน์ประสบความสำเร็จทั้งสองอย่าง ทั้งเขี่ยท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างเส้นทางผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว และรอบ 16 ทีมสุดท้ายในปีนี้ตามลำดับ และตอนนี้จะพบกับลิเวอร์พูลในเลกแรกของค่ำคืนนี้ที่ปุสกัส อารีนาในบูดาเปสต์

ตลอดสเนทางที่พวกเขาลงเล่นในฤดูกาลนี้ คือภัยคุกคานที่จะหยุดยั้งความทะเยอทะยานของบาเยิร์น มิวนิกในการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาในบุนเดสลีกาติดต่อกันเป็นสมัยที่ 9 แม้ว่าจะเสียสองนักเตะที่รับผิดชอบ 44 ประตูจาก 107 ประตูในทุกรายการในฤดูกาลที่แล้ว ติโม แวร์เนอร์ และแพทริค ชิค โดยไลป์ซิกยังตามหลังบาเยิร์นเพียง 5 แต้ม

“แม้ว่าบาเยิร์นมีโอกาสแน่นอนที่จะคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 9 ติดต่อกัน คุณยังคงพูดได้ว่าไลป์ซิกมีฤดูกาลที่ดี”อาร์ชี ไรนด์-ทุตต์ นักข่าวฟุตบอลชาวเยอรมนีของอีเอสพีเอ็นกล่าว

“ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาทำแต้มหลุดมือในเกมกับทีมอันดับสาม/สี่จากท้ายตารางที่เป็นสิ่งที่หยุดยั้งพวกเขาไล่ตามทันบาเยิร์น แต่มันบ่งบอกบางอย่างเช่นกันเกี่ยวกับมาตรฐานของฟุตบอลเยอรมันในเวลานี้ บางทีตั้งแต่จุ๊ปป์ ไฮย์เกสคว้าทริปเปิล แชมป์ และนับตั้งแต่เป๊บ กวาร์ดิโอล่าเข้ามา ฟุตบนอลเยอรมันเป็นแบบ คุณต้งอชนะทุกเกมถ้าคุณอยากจะโค่นบาเยิร์น”

“ซึ่งมันเป็นบริบทแบบนั้น และความจริงที่ว่าพวกเขาเสียหายไปกว่า 40 ประตูจากช่วงซัมเมอร์เมื่อชิคย้ายไปไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และแวร์เนอร์ย้ายไปเชลซี มันไม่เหมือนว่าศูนย์หน้าหลายคนย้ายเข้ามา และแทนที่พวกเขา ประตูมาจากทั่วทั้งทีมที่แก้ไขปัญหานี้ได้”

สกอร์ของพวกเขาในสองเกมหลังสุดในแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มในฤดูกาลนี้ ชัยชนะ 4-3 ในเกมเยือนอิสตันบูล เบซัคเซเฮียร์ และ 3-2 เหนือแมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะสร้างความรู้สึกว่าไลป์ซิกชอบเล่นเกมรุกที่ดุดัน แต่ผลการแข่งขันในบุนเดสลีกา พวกเขาเป็นทีมที่มีเกมรับดีที่สุด และยังทำประตูสูงสุดเป็นอันดับหกร่วม สะท้อนให้เห็นว่าเป็นอีกแบบ

ซึ่งคุณจะอ่านแท็กติกที่แน่นอนของทีมที่เปลี่ยนแปลงระบบ และหมุนเวียนตัวจริงเกือบทุกเกมได้อย่างไร และผู้จัดการทีมที่ไม่เหมือนปกติในยุคการโค้ชทีมสมัยใหม่ อธิบายระบบไม่ได้เป้นแค่เรื่องของตัวเลขเท่านั้น?

พวกเขาเล่นได้หลายระบบ” ไรนด์-ทุตต์กล่าวต่อไป “สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจเกี่ยวกับไลป์ซิกในฤดูกาลนี้ก็คือการเล่นบอลจังหวะเดียวของพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน โดยเฉพาะกับดานี โอลโม่ และอังเจลิโน่ และผมบอกได้เลยว่านั่นคือความแตกต่างที่แยกพวกเขาจากทีมกลุ่มที่ตามมา เข้าใกล้บาเยิร์นมากขึ้น ความสามารถในการเล่นเกมรุกอย่างแม่นยำ และด้วยความเร็ว ไม่ใช่ทุกทีมสามารถทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะถ้าคุณเป็นไลป์ซิก เช่นเดียวกันกับลิเวอร์พูล คุณมักจะต้องเจอทีมที่สนใจจะหยุดยั้งคุณมากกว่าจะเอาชนะคุณ”

“การเผชิญหน้ากับลิเวอรพูลของเจอร์เก้น คล็อปป์ตลอดสองเลกนั้นเป็นสมการที่แตกต่างออกไป และคำถามคือพวกเขารับมือได้หรือไม่? จนถึงเดือนมกราคมทีมท็อป 6 ที่เอาชนะไลป์ซิกในบุนเดสลงีกาในฤดูกาลนี้คืออูดิโอน เบอร์ลิน แต่เกมที่สำคัญที่สุดในลีกจนถึงเวลานี้คือการเสมอบาเยิร์นในเกมเยือน 3-3 ผมต้องบอกว่านาเกลสมันน์มีสถิติดีกว่าทมของฮันซี ฟลิค”

“เขามีผู้เล่นมากมายที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง และผมคิดว่าวิธีที่พวกเขาสลับตำแหน่งกันเป็นสิ่งที่คล็อปป์จะต้องระวัง มันไม่ใช่ว่า  ‘เราต้องตามตัวนั้นตัวนี้ให้ถูกต้อง’ ใครก็ตามที่ยืนในตำแหน่งของเกมรุกจะต้องจับตาดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด”

นาเกลสมันน์ได้รับการยอมรับในวงกว้างนับตุ้งแต่เขารับงานคุมทีมฮอฟเฟ่นไฮม์ด้วยวัยเพียง 28 ปี และถึงตอนนี้ด้วยประสบการณ์มากกว่าสี่ฤดูกาลในลีกสูงสุด อดีตกองหลัง 1860 มิวนิก ยังคงทำงานได้อีกนานกับอายุที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของผู้จัดการทีมในบุนเดสลีกา 16 ปี ในวัย 33 ปี ซึ่งเกมในรอบนี้จะเป็นการต่อสู้ระหว่างเนืเอหาของสองโค้ชผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลเยอรมัน และดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในบางส่วน

“ข่าวที่ออกที่นี่ทั้งในทีวี และหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่เป็นการปะทะกันของคล็อปป์กับนาเกลส์มันน์”ไรนด์-ทตุตต์กล่าว “มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ค่อนข้างง่าย และคุณสามารถเข้าใจว่าทำไม มันเป็นความรู้สึกแบบ ‘ผู้เชี่ยวชาญกับเด็กฝึกงาน’ แม้ว่าการเรียกนาเกลสมันน์ว่าเด็กฝึกงานอาจจะดูไม่เคารพเขานิดหน่อย เขาเป็นผู้นำของโค้ชชาวเยอรมันอย่างมาก และผมคิดว่าชัดเจนที่เขาจะได้ทำงานในพรีเมียร์ลีกในบางจุดในอนาคต เขาพัฒนาได้ค่อนข้างมาก นับตั้งแต่ฮอฟเฟ่นไฮม์เจอกับลิเวอร์พูลในปี 2017 ไอเดียต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม แต่มันเกี่ยวกับคุณจะประยุกต์ใช้อย่างไร และเขามีอาวุธในคลังของเขาตอนนี้”

“สิ่งที่ผมสามารถพูดได้ก็คือลิเวอร์พูลคือเรื่องที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ มากเท่ากับเพื่อนของผมที่เชียร์แมนฯ ยูไนเต็ดไม่อยากจะฟังมัน! พวกเขาอยู่ในทุกที่ ผมเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเจอร์เก้น คล็อปป์ส่องแสงมาที่ผมทุกๆ ที่ที่ผมไป และผมอาศัยอยู่ในโคโลญน์ ที่ไม่ใช่ประเทศของคล็อปป์อย่างแน่นอน การติดตามลิเวอร์พูลที่นี่เยอะมาก ผู้คนจะติดตามฟอร์มการเล่นของพวกขเา ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจในแง่ของวิธีการจัดทีม เพราะความสนใจที่โฟกัสไปที่คล็อปป์ที่นี่ใหญ่มาก”

แนวรับของไลป์ซิกบัญการการโดยดาโยต์ อูปาเมกาโน่ที่ได้รับการยกย่องอย่างมาก ในขณะที่มาร์เซล ซาบิตเซอร์มีความสำคัญในการทำประตู และแอสซิสต์จากแดนกลาง แต่นอกเหนือจากนั้นชื่อที่ต้องระวังก็เป็นชื่อที่คุ้นเคย อย่างอังเจลิโน่ ‘กองหลัง’ ฝั่งซ้ายชาวสเปนที่ทำไปแล้ว 8 ประตูในฤดูกาลนี้ และปีเตอร์ กูลัคซีชาวปูดาเปส ผู้รักษาประตูที่เคยอยู่กับลิเวอร์พูลในปี 2007-2013 โดยไม่เคยลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการให้กับทีม

“ผมจะบอกว่า ‘ตัวริมเส้นด้านซ้าย’ น่าจะเป็นคำอธิบายที่ตรงกว่าในการบรรยายถึงอังเจนิโน่มากกว่าวิงแบ็กซ้าย ฝั่งซ้ายทั้งสนามขึ้นอยู่กับเขา!”ไรนด์-ทุตต์กล่าว “เขาอาจจะไม่มีส่วนมากนับตั้งแต่ขึ้นปีใหม่ ฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาอยู่ในช่วงก่อนคริสต์มาส แต่ยังคงมีพรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อ เทคนิคของเขาน่าทึ่งมาก และความสามารถของเขาในการยิงจังหวะแรกหมดจดมาก อย่างที่ดาบิด เด เคอาเห็นจากเร้ด บูลล์ อารีนาในเดือนธันวาคม เขาเป็นผู้เล่นที่น่าติดตามชม”

และกูลัคซี?

“เขาติดดินมาก และมักจะเปิดกว้าง และตรงไปตรงมาในการให้สัมภาษณ์ คุณต้องมองไปที่เซฟสำคัญของเขาท้ายเกมกับเลเวอร์คูเซ่นเมื่อไม่นานมานี้ หรือกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาเจ็บ พวกเขาจะไม่แม้กระทั่งได้เล่นกับลิเวอร์พูลถ้าเขาไม่ได้ขยับเท้าออกไปป้องกันประตูของตัวเอง”

“เขากลายเป็นคนที่เหมาะกับช่วงเวลาสำคัญๆ และพวกเขาพูดถึงการเติบโตในแง่การเติบโตขึ้นมาในไลป์ซิก นี่คือคนที่ไม่ได้ถูกซื้อมาเป็นผู้รักษาประตูตัวเลือกแรกตอนที่เขาย้ายมาในปี 2015 ซึ่งผมไม่อยากจะดูแคลนเฮเรฟอร์ด ยูไนเต็ด และทรานเมียร์ โรเวอร์ส แต่เขามาไกลมากนับตั้งแต่ช่วงที่ย้ายออกแบบยืมตัวจากลิเวอร์พูล!”