ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ไม่ลดละ แม้จะถูกนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม โดยสามารถบุกไปชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 4-2

รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีห์ วิลเลียมส์, ฟิลลิปส์, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้, โชต้า, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, เคลเลเฮอร์, มาเน่, โจนส์, ซิมิกาส, ชากิรี, โอริกี, วู้ดเบิร์น และเนโก้ วิลเลียมส์

 

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 10 แฟร์นันด์สทำประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0
  • นาที 34 โชต้าตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 1-1
  • นาที 45+2 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1
  • นาที 47 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1
  • นาที 68 แรชฟอร์ดทำประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2
  • นาที 89 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 4-2

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 35 ในพรีเมียร์ลีก โดยไปเยือนแมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดตกค้าง

โดยก่อนเกมวันนี้ ทีมลิเวอร์พูลสาเสื้อยืดที่สกรีนเบอร์ 7 ที่ด้านหลัง เป็นการไว้อาลัยให้กับหนูน้อยจอร์แดน แบงค์ส แฟนบอลตัวยงที่เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 9 ขวบเท่านั้น

เกมในช่วงต้น ลิเวอร์พูลสามารถพาบอลขึ้นไปแถวกรอบเขตโทษของแมนฯ ยูไนเต็ดได้บ้าง แต่ยังไม่มีโอกาสจะแจ้ง แต่ทว่ากลับเป็นแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 ไปก่อนตั้งแต่นาที 10 เมื่อฟิลลิปส์สกัดบอลที่แฟร์นันด์สเปิดเข้ามาเข้าประตูไป

ลิเวอร์พูลได้ลุ่นจุดโทษหลังจากไบยี่เข้าสกัดฟิลลิปส์ล้มลงในนาที 26 แต่หลังจากเช็ค VAR แล้ว กรรมการตัดสินไม่ให้

แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาที 34 จากการตอกส้นเปลี่ยนทางบอลของโชต้า และนับเป็นแอสซิสต์ของฟิลลิปส์ด้วย

 ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 3 นาที

ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในนาที 45+2 โดยเทรนต์เป็นคนยิงฟรีคิก ก่อนที่เฟอร์มิโน่จะเข้ามาโขกฟรีคิกของเทรนต์ที่เสาแรกเข้าไปให้ลิเวอร์พูลพลิกแซง 2-1!  ก่อนจบครึ่งแรก

เกมในครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลังมาได้สองนาที ลิเวอร์พูลขึ้นนำเพิ่มในนาที 47 หลัง เฟอร์มิโน่ วิ่งเข้ามาซ้ำจังหวะการยิงของเทรนต์เข้าไปให้ลิเวอร์พูลหนีห่างเป็น 3-1!  

ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาที 60 โชต้ารับบอลจากเฟอร์มิโน่ก่อนจะมีโอกาสล้มตัวยิง แต่ลูกไปชนเสา พลาดนำห่างไปอย่างน่าเสียดาย

แต่แล้วในนาที 68 แมน ยูไนเต็ดได้ประตู 2-3 จากแรชฟอร์ด

หลังจากได้ประตูตีตามมา แมนฯ ยูไนเต็ดบุกหนัก และเกือบทำประตูได้ในนาที 70 แต่ฟิลลิปส์สกัดบอลจากเส้น และแนวรับช่วยกันป้องกันไว้ได้

จากนั้นในนาที 73 ลิเวอร์พูลได้ขึ้นบุกบ้าง แต่ซาลาห์ยิงไม่เข้ากรอบ จังหวะต่อมาคล็อปป์ส่งโจนส์ และมาเน่ มาแทนไวจ์นัลดุม และโชต้า

นาที 76 มาเน่หลุดมาลุ้นทำประตู แต่ไปติดขาของเฮนเดอร์สันเพียงนิดเดียว และกลับกันในนาที 78 บรูโน่ปั่นฟรีคิกจากระยะอันตราย บอลข้ามคานออกไป

ผู้เล่นเจ้าบ้านทำฟาสวล์ติดต่อกันในนาที 79 แม็คโทมิเนย์ไปอัดใส่ฟาบินโญ่ รับใบเหลือง และนาที 85 คาวานี่ไปเสียบใส่ติอาโก้ รับใบเหลือง

แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูปิดเกมในนาที 89 ซาลาห์ หลุดมาทำประตูให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 4-2  แม้กรรมการจะทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 4 นาที แต่ไม่มีการทำประตูเพิ่ม ทำให้ลิเวอร์พูลของคล็อปป์คว้าชัยชนะได้สำเร็จ