5 ปีของซาดิโอ มาเน่ : ‘ผู้นำที่เงียบขรึม’ของลิเวอร์พูล

“ผมจำได้ครั้งแรกที่ผมดูเขาในวีดีโอ มันเป็นเกมอุ่นเครื่องในหน้าหนาวระหว่างซัลซ์บวร์กกับบาเยิร์น มิวนิก ผมคิดว่าซัลซ์บวร์กน่าจะชนะเกมนั้นสามหรือสี่ต่อศูนย์ และซาดิโอทำประตูได้ และมันเป็นแบบ ‘ว้าว นั่นอะไรน่ะ?!’ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ เล่ากับ Liverpoolfc.com พร้อมกับหัวเราะ

“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาได้รับความสนใจจากเราตอนอยู่ที่ดอร์ทมุนด์ ผมเชื่อว่าเจอร์เก้นรู้สึกอย่างในฐานะผู้จัดการทีมว่ามันเป็นหนึ่งในความผิดพลาดที่ใหญ่ที่ไม่ได้เซ็นสัญญากับเขาให้กับดอร์ทมุนด์! แต่แน่นอนว่าเรามีเขาอยู่ในใจเสมอ เรารู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่น่าเหลือเชื่อแค่ไหน”

“เราติดตามพัฒนาการของเขาที่เซาท์แฮมป์ตันด้วยเช่นกัน และเขาโชว์ฟอร์มในระดับสูงขึ้นมาแล้วในพรีเมียร์ลีก และในที่สุดมันเป็นนโอกาสที่ไม่ต้องคิดที่จะนำนักเตะคนนี้เข้ามาอยู่ในทีมของเรา”

“นี่เป็นหนึ่งในการตัดสินใจครั้งสำคัญของเรา ผมต้องบอกอย่างนั้น”

‘การตัดสินใจครั้งสำคัญ’ ในครั้งนั้นสะท้อนให้เห็นข้อสรุปในห้าปีตอมา

ตั้งแต่เซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลเมื่อวันที่ 28  มิถุนายน 2016   ซาดิโอ มาเน่ทำไป 97 ประตูจากการลงเล่น 218 เกม และเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, แชมเปียนส์ลีก, ฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ และยูฟา ซูเปอร์ คัพ มาประดับสโมสร

เพื่อเป็นการฉลองครบรอบห้าปีการย้ายมายังแอนฟิลด์ของกองหน้ารายนี้ คราเวียตซ์ได้มาอัพเดตรายละเอียดการวิเคราะห์นักเตะที่มี ‘เอกลักษณ์เฉพาะตัว’ ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก

เริ่มย้อนไปตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ของปี 2016 ชัดเจนว่าซาดิโอเป็นที่ต้องการของทีมในเวลานั้น เพราะเขาเข้ามาเพิ่มมิติในเกมรุกที่แตกต่างออกไป?

แน่นอน นั่นคือคือความประทับใจแรกของเรา และอย่างที่เราเห็นมาตลอดห้าปีที่ผ่านมาว่าซาดิโอเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์แค่ไหน เราทำถูกที่สุดกับความประทับใจแรกของเรา และในเวลาเดียวกัน เราประหลาดใจว่าเขาพัฒนาได้ดีแค่ไหนระหว่างช่วงเวลาที่เขาอยู่กับลิเวอร์พูล

เราตื่นเต้นจริงๆ เกี่ยวกับเขา เพราะคุณภาพที่เขามีเฉพาะตัว ผมต้องบอกอย่างนั้น ซาดิโอคือนักเตะที่ทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้จริงๆ ในเกมรุก ไม่ว่าจะเป็นทักษะการดวลตัวต่อตัว ความเร็วของเขา จะซ้ายหรือขวา การจบสกอร์ของเขา ความสามารถในการทำประตูจากลูกโหม่งของเขาทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ การขึ้นกระโดดได้สูงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ผมไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อน แน่นอนว่าเขาไม่ใช่นักเตะที่สูงที่สุด แต่เขาคือหนึ่งในจุดที่แข็งแกร่งที่สุดในลูกกลางอากาศเช่นกันกับความพร้อมของเขา และความสามารถในแง่เกมรับ อะไรก็ตามที่คุณต้องการจากตัวเขา เขาสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วมากๆ รวมถึงความพยายามของเขาในการช่วยหลือทีมในการตั้งรับในสถานการณ์ต่างๆ ด้วยเช่นกัน

ซึ่งนี่ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีคุณค่าที่สุด น่าเหลือเชื่อมาก ความครบเครื่องทั้งหมด คุณไม่ได้หาเจอบ่อยๆ การผสมผสานความแข็งแกร่ง ความอดทน ความเร็ว ทักษะการเล่นแบบตัวต่อตัว ปีกซ้าย หรือปีกขวา หรือตรงกลาง เขาสามารถทำได้แทบจะทุกอย่าง ผสมผสานกับทัศนคติของเขา นี่คือความครบเครื่องอย่างน่าเหลือเชื่อ

ความชาญฉลาดในการเล่นฟุตบอลของซาดิโอ และข้อเท็จจริงว่าเขามีแท็กติกการเล่นที่โดดเด่นเป็นพิเศษ เช่นกันกับในส่วนของร่างกาย และเทคนิค ทำให้เขาถูกมองข้ามบางอย่างหรือไม่?

ใช่เลย ตลอดเวลามันคล้ายกันนิดๆ หน่อยๆ ผมจะพูดมันยังไง? ผม ในฐานะโค้ช ผมจะมองข้ามสถิติ เพราะการจะเป็นนักเตะที่สำคัญในทีมของคุณจะมีหลายๆ อย่างที่คุณต้องทำโดยไม่สามารถประเมินได้จากทางสถิติ การยืนตำแหน่ง ความพร้อม ทัศนคติ อะไรเหล่านี้ไม่ได้มีตัวเลขวัดได้ แต่คุณมองเห็นมัน และคุณสัมผัสมันได้ในช่วงเวลาทีคุณมองดูเขา

เราทุกคนรู้ว่าซาดิโออยากจะทำประตูด้วยเช่นกัน แต่คุณค่าของเขาสำหรับเรานั้นแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างหนึ่งในเกมที่เราชนะบาร์เซโลนา 4-0 อันโด่งดังในแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศที่ซาดิโอไม่ได้ทำประตู แต่เรื่องหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับเรา สำหรับทุกคนในทีมโค้ช และสำหรับผู้จัดการทีมด้วยเช่นกัน นั่นคือเกมที่น่าเหลือเชื่อที่สุด และนักเตะที่ประเมินค่าไม่ได้มากที่สุดในสนามคือซาดิโอ มาเน่ วันนั้นเขาไม่เคยหยุดวิ่ง เขาตั้งรับทุกสิ่งทุกอย่าง และเขาเป็นคนเลี้ยงบอล เขามีคุณค่าเหมือนกับนักเตะสองคนในหนึ่งเดียว เขาอยู่ไปทุกๆ ที่!

เราเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจเรา (และ) ทุกคนที่อยู่ในสเตเดียมมองเห็นเรื่องนี้ แน่นอนว่าตัวเลขในบันทึกจะเป็นเรื่องของประตู และเขาทำประตูไม่ได้ แต่ทุกคนมองเห็นจากเกมนั้นว่ามันเป็นหนึ่งในโชว์ฟอร์มการเล่นที่น่าเหลือเชื่อที่สุดของนักเตะตัวรุกเท่าที่ผมเคยเห็น นี่คือปัญหานิดหน่อยกับเรื่องของรางวัล และสถิติ

ทุกคนมองปที่คนที่ทำประตูได้ แต่อย่างที่ผมเคยพูด ไม่มีตัวชี้วัดสำหรับนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีนอกจากการจ่ายบอลสำเร็จ ประตู หรืออะไรก็ตาม แต่เรื่องอื่นๆ ทั้งหมด มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะสะท้อนออกมาเป็นตัวเลข  และนี่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เรารู้สึกถึงคุณค่าของซาดิโอ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำเรายินดีกับมันมากกับสิ่งที่เขาทำให้ทีมชุดนี้มาแล้วหลายปี

เขายังมีสภาพจิติใจที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน และพูดตามตรงว่าเขามีความเป็นผู้นำด้วยไหม? เขาเป็นผู้นำด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง…

เขานำทีมด้วยการเป็นตัวอย่าง เขานำทีมด้วยคุณภาพ เขานำทีมด้วยทัศนคติของเขา แน่นอนว่าเขาพัฒนาขึ้นมาเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์มากขึ้น คว้าแชมป์มากมาย และแชมป์อะไรทั้งหมดที่เราได้ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่สำคัญที่สุดที่เรามีในสนาม เกือบสี่ปี เขามักจะพร้อมลงเล่นเสมอ เขาลงเล่นเกมมากมาย และเขามักจะเพิ่มพลังงานให้กับทีมอย่างชัดเจนเสมอ

ในท้ายที่สุดเขาเป็นนักเตะที่ทีมคู่แข่งรับมือไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเลี้ยงไม่ผ่านครั้ง, สองครั้ง หรือสามครั้ง คุณรู้เสมอว่าเขาสามารถทะลุกไปได้ในอีกวินาที ดังนั้นนี่คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงยากอย่างไม่น่าเชื่อในการรับมือเขา และชัดเจนว่าทำไมเขาเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของเรา ผมคงบรรยายได้ดีพอว่าเขามีคุณค่ามากแค่ไหนในทีมของเรา

เมื่อมีการพูดถึง ‘การเข้าคู่’ ในสนาม มันมักจะเป็นเซนเตอร์แบ็ก หรือกองหน้าที่ถูกผิดถึง แต่คุณสามารถบอกเรานิดหน่อยเกี่ยวกับการเข้าคู่กันระหว่างซาดิโอกับแอนดี โรเบิร์ตสัน ซึ่งมีส่วนสำคัญมากสำหรับความสำเร็จของลิเวอร์พูลในระยะหลัง?

ทางฝั่งซ้ายของเราเป็นแบบ ‘ว้าว!” มันมหัศจรรย์อย่างที่สุด และแน่นอนว่ามันช่วยเราได้ในการเล่นหลายๆ เกมรวมกัน แต่การประสานงานนี้กับร็อบโบ้ และซาดิโอ ทั้งคู่รวดเร็วมาก ทั้งคู่พร้อมจะเล่นเกมรับ ทั้งคู่สามารถครอส และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ในการเล่นร่วมกัน ในสไตล์ของเรามักจะพูดเกี่ยวกับการเล่นแบบ ‘สามเหลี่ยม’

คุณไม่ได้มีเพียงแค่คู่นี้ แต่คุณมักจะมีกองกลางอยู่ทางฝั่งซ้ายเสมอ และทั้งสามคนนี้จะต้องเล่นร่วมกัน เราพูดคุยเกี่ยวกับสามเหลี่ยมทางฝั่งขวาเช่นกัน กับนักเตะที่เชื่อมกันตรงกลาง อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในสนาม สามเหลี่ยมนี้ที่มีร็อบโบ้, ซาดิโอ บวกกับกองกลางอีกหนึ่งคน เรามักจะรู้เสมอว่านี่คืออาวุธของเราอย่างชัดเจน แน่นอนว่าคือการเข้าคู่ที่ดี และการมีนักเตะสองคนนี้ร่วมกันช่วยเหลือกันและกัน การสนับสนุนกันและกัน การประงานงาน การเล่นเกมรุก นี่เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่สุด

สุดท้ายชัดเจนว่าคุณรู้ว่าเราเซ็นสัญญากับนักเตะที่มีความสามารถสูงมากกับศักยภาพมากมายตั้งแต่ห้าปีก่อน แต่ซาดิโอทำได้เกินความคาดหมายของคุณหรือไม่?

ใช่อย่างแน่นอน พัฒนาการของเขาจนกลายเป็นผู้นำที่เงียบขรึม คุณลักษณะส่วนตัวของเขา ความพร้อมในการแก้ไขสิ่งต่างๆ คุณสามารถเห็นความเร่าร้อนที่เผาไหม้ภายในตัวเขาในสนาม และคู่แข่งมากมายพยายามจะยั่วยุเขา นี่คือบางเรื่องที่เราเรียนรู้ในระหว่างหลายปีที่ผ่านมาเช่นกัน การรักษาความเยือกเย็น และในเวลาเดียวกันก็ยังไม่สูญเสียความเร่าร้อนในตัวเขา และความตั้งใจของเขา และความทะเยอทะยานที่จะเล่นฟุตบอลให้ประสบควมสำเร็จ และทำให้เป็นไปได้ที่จะดึงเขาให้เสียสมาธิ การทำลายสมาธิของเขา หรือโฟกัสของเขา

นี่คือเรื่องที่เขาปรปรุงขึ้นเป็นอย่างมาก และเป็นสัญญที่ชัดเจนสำหรับคุณลักษณะในตัวเขา และพัฒนาการของเขาจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีสามนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในตำแหน่งของเขาในฐานะปีก แน่นอนว่าคุณไม่มีวันรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับนักเตะ แต่เขาพร้อมที่จะรับฟัง และเรียนรู้ ละพัฒนา และซาดิโอผ่านย่างเก้าที่ยิ่งใหญ่ที่จะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะอาชีพที่ดีที่สุดในแง่ทัศนคติ และการอยู่ในวงการกีฬาของเขา รวมถึงการอยู่ภายใต้ความทะเยอทะยานของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งชัดเจนว่าเขาเป็นแบบอย่างที่ดี