ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะในพรีซีซั่นได้เป็นนัดแรก เมื่อเอาชนะไมซ์ไปด้วยสกอร์ 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองท้ายเกม

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง:   เคลเลเฮอร์, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกนาเต้, มาติป, ซิมิกาส, มิลเนอร์, เกอิต้า, เอลเลียตต์, มาเน่, ซาลาห์ และอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

สำรอง:    อาเดรียน, คาริอุส, ฮาร์วีย์ เดวิส, โจนส์, มินามิโนะ, โชต้า, โอริกี, ฟิลลิปส์, กอร์ดอน, เบ็ค, เคน, คลาร์กสัน, เนโก้ วิลเลียมส์, มอร์ตัน, แบรดลีย์ และคูเมติโอ

จังหวะที่สำคัญ

  • นาที 86 คิเลียนทำเข้าประตูตัวเอง

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมนัดที่ 3 ในพรีซีซั่นด้วยการพบกับไมซ์ ทีมจากเยอรมนี โดยมิลเนอร์รับหน้าที่กัปตันทีมในนัดนี้

หลังจากเล่นเกมละ 30 นาที มาสองเกมเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลจะลงเล่น 90 นาที ในเกมกับไมซ์ในคืนนี้

จากจังหวะเตะมุมในนาที 5 ของเทรนต์ มาติปขึ้นโขก และลูกเลยมาที่อ็อกซ์ แต่น่าเสียดายที่เข้าชาร์จไม่ได้

ลิเวอร์พูลได้ลุ้นในนาที 20 จากลูกเตะมุมของซิมิกาส แต่ผู้รักษาประตูพุ่งมาทุบออกไป จากนั้นไมซ์บุกกลับและได้ยิง แต่เคลเลเฮอร์ไม่พลาด

ในนาที 31 มาเน่ทำได้ใกล้เคียง ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะได้เตะมุม เอลเลียตต์ได้บอลก่อนกระชากไปเส้นหลัง แต่เปิดแรงออกไป

มาเน่ถูกสกัดล้มลงในนาที 35 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่เทรนต์จะปั่นไม่เข้ากรอบ

ก่อนหมดเวลา 5 นาที อ็อกได้โอกาสปั่นในกรอบ แต่ถูกผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้

เกมในครึ่งหลัง

นักเตะลิเวอร์พูลในครึ่งหลัง

อาเดรียน, เนโก้ วิลเลียมส์, ฟิลลิปส์, คูเมติโอ, เบ็ค, คลาร์กสัน, กอร์ดอน, มอร์ตัน, โจนส์, มินามิโนะ และโอริกี   

เริ่มครึ่งหลังไม่กี่นาที ฟิลลิปส์ต้องเคลียร์จังหวะอันตรายของไมเออร์ที่ครอสเข้ามาในกรอบ 6 หลา

เกมในครึ่งหลังส่วนใหญ่เป็นการชิงบอลตรงแดนกลาง และไม่ค่อยมีจังหวะลุ้นประตูมากนัก โดยในนาที 50 โจนส์ได้ยิงแต่หลุดเสาไกลออกไป

หลังจากหยุดดื่มน้ำ โจนส์ได้ลุ้นอีกครั้งในนาที 75 แต่วางเท้าใต้บอลไปลูกเหินโด่งข้ามคาน

อาเดรียนเซฟอย่างยอดเยี่ยมในนาที 76 หลังปัดลูกยิงข้ามคานออกไปได้อย่างหวุดหวิด

มินามิโนะพาบอลก่อนจ่ายให้โอริกีก่อนที่จะล้มในเขตโทษในนาที 85 แต่กรรมการไม่ว่าอะไรในนาที 84

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 86 หลังจากเบ็คขวางบอลเข้ามาก่อนที่กองหลังไมซ์จะทำเข้าประตูตัวเอง

หลังจากขึ้นนำ ลิเวอร์พูลต้องเล่นเกมรับอย่างหนัก เมื่อไมซ์โหมบุกเขามา แต่แนวรับของทีมลิเวอร์พูลยังช่วยกันยันไว้ได้

โจนส์ได้โอกาสทำสกอร์แต่กรรมการเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนในนาที 90 และนั่นเป็นจังหวะสุดท้ายของเกมในวันนี้