ดิโอโก้ โชต้า กำลังหวังว่าลิเวอร์พูลจะสามารถไขว่คว้าโอกาสที่ดีในการสร้างสถิติใหม่ของสโมสรเกี่ยวกับการไม่แพ้ทีมใดติดต่อกัน และสร้างประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง

ชัยชนะ 2-0 เหนือทางแอตเลติโก มาดริดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาหมายความว่ากลุ่มนักเตะหงส์แดงชุดปัจจุบันของหงส์แดงทำได้เทียบเท่ากับการแพ้ทีมใด 25 เกมติดต่อกันที่ทีมระดับตำนานคลาสออฟ 1982 ของ บ็อบ เพสลีย์ ทำเอาไว้นับตั้งแต่การกลายมาเป็นทีมแห่งฟุตบอลลีก

ดังนั้นหากวันอาทิตย์นี้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่แพ้เกมกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด, พวกเขาจะสร้างมาตรฐานอันใหม่ขึ้นมาในหนังสือบันทึกเรื่องราวที่แอนฟิลด์

มันคือโชต้าซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลอยู่บนเส้นทางของพวกเขาในการชนะแอตเลติโกเมื่อกลางสัปดาห์, และระหว่างการพูดคุยเชิงลึกกับ Liverpoolfc.com ที่ศูนย์ฝึกซ้อม AXA Training, แนวรุกชาวโปรตุเกสสนทนาถึงความสามารถในการโหม่งที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของเขา, 47 ประตูที่ยอดเยี่ยมที่ทีมทำได้จาก 16 เกมของฤดูกาล 2021-22 นับจนถึงตอนนี้ และความอันตรายที่ทีมขุนค้อนจะมีในสุดสัปดาห์นี้

อ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆของเรากับผู้เล่นหมายเลข 20 ได้ที่นี่…

ดิโอโก้อย่างแรกเลยนะให้เราเริ่มต้นกันด้วยฟอร์มทีม  ตอนนี้ 25 เกมที่ไม่แพ้ทีมใดในทุกรายการและเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมามันไปเทียบเท่ากับสถิติสโมสร สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินการคือ?

ผมจะบอกว่าการทำงานหนัก ผมคิดว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้เรากำลังเล่นกันได้ดีจริงๆ, เรากำลังทำประตูมากมาย และแน่นอนว่านั่นช่วยเรา ในบางเกมเป็นความโชคไม่ดีที่เราเสียบางประตูเช่นกัน และนั่นหมายความว่าเราไม่ชนะเกมเหล่านั้น, แต่ ณ ตอนจบผมคิดว่าการดำเนินการนี้แสดงให้เราเห็นว่าเรากำลังทำสิ่งต่างๆอย่างถูกต้อง ดังนั้นเราเพียงต้องการที่จะทำมันต่อไปเนื่องจากนั่นสามารถจะนำเอาความสำเร็จมายังเรา

เมื่อคุณคิดถึงประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้มันทำให้คุณรู้สึกอย่างไรกับการเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ทำได้เทียบเท่ากับสถิตินั้น?

เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง, อย่างที่คุณบอก, มันคือสโมสรใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่, ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายกับการทำสิ่งต่างๆที่พิเศษ - สิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ในอีก หลายๆเกมเรามีโอกาสที่จะสร้างสิ่งที่ดีสำหรับช่วงเวลาไปอีกยาวนาน ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี และมันขึ้นอยู่กับเรากับการคว้ามันมาให้ได้

อย่างไรก็ตามมันจริงหรือไม่กับการบอกว่าไม่มีใครภายในห้องแต่งตัวที่กำลังคิดถึงมัน?

ผมไม่คิดว่าเรามีการคิดถึงมันกันนะ มีสถิติต่างๆที่น่าสนใจเกิดขึ้นอยู่เสมอ, แต่ ณ ตอนจบทั้งหมดที่เราต้องการคือการชนะเกมถัดไป และเกมถัดไป แน่นอนว่าเหตุการณ์แบบนั้นเป็นประโยชน์เสมอกับการแสดงให้เราเห็นว่าเรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง

จากเกมหนึ่งไปสู่อีกเกมหนึ่งเกมแล้วเกมเล่าคุณทำมันด้วยวิธีคิดแบบเดียวกันอย่างไร?

แน่นอนว่าเราต้องการที่ขอบคุณคู่แข่งของเราเนื่องจากพวกเขากำลังทำแทบจะสิ่งเดียวกัน พวกเขากำลังชนะเกมต่างๆ, ดังนั้นมันบังคับเราเอาชนะเกมทั้งหลาย และดำเนินต่อไป ในลีกนี้เราไม่ใช่จ่าฝูง; ถึงแม้ว่าเราจะมีฤดูกาลท่ีดีก็ตามในความเห็นของผมนะ, เราไม่ใช่ทีมนำของลีกดังนั้นนั่นแสดงให้เราเห็นว่ามีทีมอื่นๆที่กำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง และเรานั้นต้องผลักดันกันต่อ

คุณเอ่ยถึงสถิติการทำประตูของทีมในช่วงต้นการสนทนา ฤดูกาลนี้นับจนถึงตอนนี้มันคือ 47 ประตูจาก 16 เกมสำหรับทีม - นั่นคือสถิติที่น่าเหลือเชื่อ

มันคือครั้งแรกที่ผมมีส่วนร่วมในบางสิ่งอย่างนั้น แม้แต่ฤดูกาลที่ผ่านมา, เราไม่ได้มีสถิติแบบนั้น ผมคิดว่าในแดนหน้าเรากำลังเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อย่างที่ผมบอก, ในบางเกมเรามีคลีนชีท และในบางเกมเราเสียประตู, ดังนั้นเราต้องปรับปรุงสิ่งนั้นในฐานะทีมเพื่อจะทำให้แน่ใจว่าเราจะเอาชนะเกมต่างๆ

อย่างไรก็ตามอะไรคือกุญแจสำคัญกับอัตราการทำประตู?

ผมคิดว่าพรีซีซั่นช่วยได้มาก เราคือทีมที่มีความเอาจริงจังในสนาม และเราต้องอยู่ในระดับที่สูงของเราในแง่ของความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย, เพื่อที่จะสามารถทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นมา ผมคิดว่าฤดูกาลนี้สิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้น

โดยส่วนตัวแล้วคุณทำไปแล้ว 5 ประตูสำหรับฤดูกาลนี้นับจนถึงตอนนี้ เหมือนกับผู้เล่นในแดนหน้าคนอื่นๆคุณเองก็กำลังสนุกกับตัวคุณเองเวลาอยู่หน้าประตู

ผมคิดว่ามันเป็นประโยชน์สำหรับทีมกับการมีผู้เล่นมากมายที่มีชื่อทำประตูอยู่ตลอดเวลา, โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นในแดนหน้าเนื่องจากพวกเขาจะมีโอกาสมากขึ้น ผมเพียงหวังว่าเราจะยังคงสามารถจะดำเนินต่อไป, หรือแม้แต่จะดีขึ้น, เกี่ยวกับสถิตินั้น

ผมคิดเอาว่ามันช่วยกับการมีใครบางคนอย่างเทรนต์ที่อยู่ทางขวาเพื่อจะให้บอลกับคุณ ตอนที่เขามีบอลคุณวิ่งทำทางโดยรู้ว่าเขาสามารถจะหาคุณเจอใช่หรือไม่?

ใช่, แต่มันไม่เพียงแค่เทรนต์เท่านั้น แน่นอนว่าเขาคือหนึ่งในคนเหล่านั้นซึ่งจะให้บอลอย่างยอดเยี่ยมซึ่งคุณเพียงต้องส่งมันเข้าประตูไป, อย่างที่มันเกิดขึ้นในเกมล่าสุด ผมสร้างการวิ่งอยู่เสมอ, แต่แน่นอนว่ามีผู้เล่นบางคนที่คุณรู้ว่ามันมีความเป็นไปได้มากกว่าที่บอลจะมาถึงคุณ

ฤดูกาลนี้เราเองก็กำลังทำประตูในหลากหลายแบบด้วย

มันมาจากเตะมุม, การโต้กลับ, การครอบครองบอล… ผมคิดว่านั่นสำคัญจริงๆเนื่องจากในบางเกมเราจะไม่มีการโต้กลับหรือในบางเกมเราจะไม่สามารถทำประตูหลังจากการผ่านบอล 30 ครั้ง มันสำคัญกับการที่เราจะยังค้นหาวิธีการที่ทำประตูซึ่งแตกต่าง

นั่นคือการโหม่งลูกที่ 6 ของคุณให้กับลิเวอร์พูล ก่อนหน้านี้คุณทำได้ 2 ประตูในชีวิตการค้าแข้งฟุตบอลของคุณ นั่นเป็นความบังเอิญหรือเป็นบางสิ่งที่คุณมีการทำงานด้วย?

ผมจะไม่บอกว่าผมได้ใส่ความพยายามพิเศษลงไปกับมัน ผมคิดว่าสถานการณ์ต่างๆกำลังเกิดขึ้น - แม้แต่ในเกมล่าสุด, ผมมี 3 การโหม่งที่น่าจะเป็น 3 ประตู สถานการณ์ต่างๆกำลังเกิดขึ้น และผมต้องทำมันให้ได้

มันเป็นความน่าพึงพอใจอย่างไรเมื่อคุณทำประตูด้วยการโหม่แนวรุกทั้งหลายมักจะมีประเภทของประตูที่เขาชื่นชอบ

ผมสนุกกับมัน ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ ผมดูลีกสูงสุดของโปรตุเกส และทำการมองผู้เล่นทั้งหลายที่ทำการโหม่ง ผมแบบ, ‘อ้า… ผมหวังว่าผมอาจจะทำแบบนั้นได้!’ ผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมผมจึงมองไปยังสิ่งนั้นว่าเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม, แต่ตอนนี้ผมสามารถจะทำมันได้ดังนั้นผมมีความสุขมากๆ

เวสต์แฮมคือเกมถัดไป - ทีมที่อยู่ในฟอร์มดีจริงๆด้วย

ใช่ ผมได้ดูพวกเขาเล่นในบางครั้ง และผมชอบวิธีท่ีพวกเขาเล่น ผมคิดว่าพวกเขาเล่นดี, ฟุตบอลเกมรุก แม้แต่ในยูโรป้า ลีกพวกเขากำลังทำได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นจ่าฝูงกลุ่มของพวกเขา, ดังนั้นมันจะไม่ง่ายสำหรับเรา เรากำลังจบวงโคจรของเกมต่างๆเนื่องจากมันเป็นพักเบรคทีมชาติอีกครั้ง, ดังนั้นมันจะสำคัญสำหรับเรากับการไปที่นั่นแล้วคว้า 3 คะแนน

มันจะสำคัญเสมอหรือไม่กับการไปยังพักเบรคทีมชาติโดยการปิดด้วยชัยชนะหรือผลการแข่งขันที่ดีหรือไม่?

ใช่, ผมคิดเช่นนั้นเนื่องจากหลังจากนั้นคุณต้องรอซักพักนึงเพื่อที่จะมีอีกหนึ่งเกม, ดังนั้นมันจะดีกว่าหากคุณทำสิ่งต่างๆอย่างถูกต้องเนื่องจากเมื่อคุณเสมอหรือแพ้เกม, คุณจะต้องการอีกเกมเพื่อจะกลับมาชนะ เมื่อมันเกิดขึ้น และมันคือเกมสุดท้ายก่อนจะพักเบรค, คุณไม่ได้มีโอกาสนั้น, ดังนั้นมันจะดีกว่ากับการจบมันด้วยชัยชนะ

คุณเอ่ยถึงวงโคจรของเกมต่างๆ มันมีความเข้มข้นจริงๆ ด้วยบางโปรแกรมที่เราเล่น

มันจะเป็นแบบเดียวกันในเดือนพฤศจิกายน และเมื่อเดือนตุลาคมมันมีความเข้มข้น ในส่วนแรกของฤดูกาล, มันเป็นแบบวงโคจรในแต่ละเดือน และเรารู้ว่าหลังจากเบรคทีมชาตินั่นจะหยุดไปพักนึง และเราจะมีอีกหนึ่งวงโคจรใหญ่ เราต้องการที่จะจบวงโคจรแรกนี้แล้วหลังจากนั้นหลังจากทีมชาติเราจะคิดถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา