ในส่วนที่สามของการแถลงข่าวก่อนเกมกับคาร์ดิฟฟ์, เจอร์เก้น คล็อปป์ได้พูดถึงการแข่งขันที่เติบโตขึ้นในทีมลิเวอร์พูลของเขา รวมถึงการกลับมาของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่

และนี่คือสรุปส่วนที่เหลือในการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวของผู้จัดการทีม…

พูดถึงการที่มีนักเตะสองคนในแอฟคอน นัดชิงชนะเลิศ และเขาจะต้องดูแลนักเตะที่แพ้หรือไม่

ไม่จริงๆ ผมไม่ใช่คนที่คิดว่าทุกอย่างจะเป็นปัญหา ดังนั้นการที่นักเตะทั้งสองคนประสบความสำเร็จมากในทัวร์นาเมนต์นี้ และรเาต้องรอสถานการณ์ในปีหน้า(ช่วง)ปลายเดือนพฤศจิกายน, ต้นเดือนธันวาคมก็เหมือนกัน และทุกคนจะต้องกลับมาจากฟุตบอลโลก

จะมีผู้ชนะคนเดียว หรืออาจจะเป็นสองหรือสามคน และที่เหลือทั้งหมดจะแพ้ ซึ่งโลกของเราจะคอยสร้างเด็กๆ เหล่านี้ ขอบคุณสำหรับคำถาม โดยปกติแล้วไม่มีใครถามว่าพวกเขาจะต้องรับมือกับมันยังไง ผมสามารถรับมือกับเรื่องนี้ มันไม่เป็นปัญหา ผมจะช่วยพวกเขาด้วยทุกอย่างที่ผมมี

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมพูดไปว่าตอนที่พวกเขากลับมา เราต้องมีการพูดคุย และเราจะรอดูว่าพวกเขาต้องการอะไร พวกเขาต้องพักวัน หรือสองวัน หรืออะไรทำนองนั้นหรือไม่ พวกเขาเป็นเด็กของเรา และเราต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการผ่านสถานการณ์ต่างๆ มันเป็นอย่างนั้นเสมอ

อย่างที่ผมเคยพูด มันเหมือนกันเลยกับฟุตบอลโลก ผมคิดว่าฟุตบอลโลกจบ เราจะเข้าไปสู่ช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ หรืออะไรแบบนั้น มันน่าสนใจมาก ผมแน่ใจว่าหลังจากที่ฟุตบอลโลกจบ คุณได้แชมป์โลก หลังจากนั้นคุณกลับมา ลงเล่นในวันที่ 26 อะไรแบบนั้น เล่นในวันที่ 28 และอะไรทำนองนี้ ค่อนไปพูดกันหลังจากนั้น หลังจากนี้เราจะมีประสบการณ์จากแอฟริกา คัพ และจะบอกคุณได้ว่ามันง่าย หรือไม่ง่าย แต่แน่นอนว่าจนถึงเวลานี้เรายังไม่มีประสบการณ์นี้ หรือไม่มีประสบการณ์แบบนี้บ่อยๆ

เกี่ยวกับว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อซาลาห์ และมาเน่ที่ได้กลับมายังสโมสรทันทีหรือไม่..

เด็กสองคนนี้คือนักรบที่แท้จริง ซึ่งพวกเขาพร้อมอย่างสม่ำเสมอ พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้กังวลเกี่ยววันพักร้อน เกี่ยวกับวันพัก หรืออะไรทำนองนี้ ผมไม่เคยได้ยิว่าพวกเขาเรียกร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ผมขอพักสักวันได้ไหม่?’ ไม่เคย พวกเขาไม่เคยทำ ซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสองคนนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดา

ผมรู้ว่าพวกเขาอยากจะลงเล่นทันที แต่รวมกันกับพวกเขาเราต้องหาทางทำอะไรที่สมเหตุสมผล ซึ่งเราจะต้องทำเรื่องนี้ คุณคงนึกภาพออกว่าทั้งสองคนอยากจะลงเล่นกับเลสเตอร์ ทั้งสองคนต่างต้องการลงเล่น ต้องการจะทำประตู และต้องการชนะเกมฟุตบอลให้กับลิเวอร์พูล มันเป็นอย่างนั้น แต่มันเป็นวันศุกร์ (วันนี้) และยังอีก 5 วันที่ต้องตัดสินใจในเรื่องนี้ ผมไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมันมากนัก เพราะว่าเด็กๆ จะกลับมา และหลังจากนั้นเราจะพูดคุยกัน มันเป็นอย่างนั้น

พูดถึงซาลาห์ และมาเน่ที่มีส่วนสำคัญมากขึ้นในห้องแต่งตัวของลิเวอร์พูลหรือไม่

นักเตะที่มีประสบการณ์มีอิทธิพลมากอย่างที่สุด แต่เราต้องสร้างความแตกต่าง เรามีการประชุม และอะไรแบบนี้ แต่การพูดจากระตุ้นก่อนเกมเป็นตอนที่มิลลี่ เฮนโด้ และคนอื่นๆ อย่างเช่นร็อบโบ้ปลุกใจก่อนเกมสองสามนาที เพราะผมไม่ใช่คนที่พูดภาษาถิ่นได้เก่งมาก ดังนั้นมันไม่สมเหตุสมผล ในช่วงเวลานี้แต่ละคำต้องตอกย้ำ ไม่ใช่แบบ ‘เอ่อ, เอ่อ, เอ่อ’อะไรแบบนั้น

มันไม่เข้าท่า ภาษาอังกฤษของผมดีขึ้น และชัดเจนว่ามันเหมือนกันกับซาดิโอ และโม ผมเคยเห็นทักษะความเป็นผู้นำมากมายจากนาบี และมันต้องให้เวลาสักพักจนกว่าเขาจะพูดภาษาอังกกฤษได้ดีพอที่จะเข้าใจพวกเราทุกคน แต่ในขณะนี้ภาษาอังกฤษของเขาก็ดีมาก

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่นั่นใช้ภาษาบ้านเกิด เป็นนักเตะที่สำคัญที่สุด นักเตะที่ดีที่สุดในประเทศของพวกเขา และพวกเขามีรับหน้าที่สำคัญ นั่นเป็นเรื่องที่ประทับใจมาก ผมไม่เคยสงสัยเรื่องที่พวกเขามีทักษะความเป็นผู้นำ แน่นอนที่สุด แต่เรามีกลุ่มที่แตกต่างออกไป และพวกเขาต้องทำเรื่องที่แตกต่างกับกลุ่มที่แตกต่าง พวกเขาเติมเต็มหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

พูดถึงการแข่งขันในตำแหน่งแบ็กซ้ายกับแอนดี โรบินสัน และคอสตาส ซิมิกาสจะดึงสิ่งที่ดีที่สุดของแต่ละคนออกมาใช่หรือไม่

ผมไม่แน่ใจว่าการแข่งขันคือคำที่ใช่ที่ผมอยากจะใช้ในช่วงเวลาแบบนี้หรือไม่ ซึ่งเราคือหนึ่งทีมใหญ่ เรามีทีมชุดเดียว ถ้าคุณเล่นให้ลิเวอร์พูล คุณต้องมีเรื่องที่ดีหลายอย่างที่คุณจะคาดหวังได้ และบางเรื่องก็แตกต่างจากตอนที่คุณเล่นให้กับสโมสรอื่นๆ

ดังนั้นที่ลิเวอร์พูล เราต้องชนะทุกเกม ส่วนใหญ่มันเป็นอย่างนั้น โชคร้ายมากที่เราทำเรื่องนี้ไม่ได้ แต่มันไม่ได้แปลว่าเราได้รับอนุญาตให้แพ้ในเกมถัดไปเช่นกัน เด็กๆ เหล่านี้ตลอดสองสามปีที่ผ่านมาทำงานได้น่าเหลือเชื่อโดยไม่มมีต้องมีมัน อย่างที่คุณพูด การแข่งขันในตำแนห่งต่างๆ

พวกเขาบีบ พวกเขากดดันไปตัวเองไปถึงขีดจำกัด น่าเหลือเชื่ออย่างที่สุดกับพัฒนาการที่พวกเขามี เราไม่ได้นำนักเตะที่แตกต่างเข้ามาเพื่อสร้างการแข่งขัน

เรานำนักเตะเข้ามาเพื่อหาทางออกในสถานการณ์ที่แตกต่าง และตอนนี้แปลว่าเด็กๆ ต้องรับมือกับมัน นี่คืองานที่พวกเขาต้องทำ มันแปลว่าคุณอยู่ในรายชื่อชุดแรก ดังนั้นคุณต้องทุ่มเทเต็มที่ และเล่นให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ นานเท่าที่คุณจะทำได้ ยิ่งดีกวาขึ้น เพราะว่าเขาสดขึ้น และนั่นคือแนวคิดเบื้องหลัง

ซึ่งหนึ่งฤดูกาลนั้นยาวนานมาก และเรามีปัญหาการบาดเจ็บเยอะมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่เป็นแบบนี้อีกต่อไป แต่ถ้ามันเกิดขึ้นเราจะต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ ถ้ามันไม่เกิดขึ้นแล้วเรามีสถานการณ์ที่นักเตะที่อยู่บนม้านั่งสำรองที่คาดหวังว่าจะได้เล่น และนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในทีมที่คาดหวังว่าจะอยู่บนม้านั่ง ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ที่คุณมี ไม่มีวันอยู่ได้นาน แต่บางครั้งเราต้องทำให้มันเป็นสถานการณ์ที่ปกติอย่างที่สุด

เราเคยมีมันมาก่อน โชคร้ายที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และเราจะมีอีกในอนาคต นักฟุตบอลคุ้นเคยกับเรื่องนี้ กลับที่คำถามของคุณ ถ้ามีนักเตะที่เล่นในตำแหน่งเดียวกับตัวเอง ในขณะที่ตัวคุณเองทำผลงานได้ค่อนข้างดี ใช่เลย คุณเล่นได้ดีขึ้น!

เพราะงานของผมไม่ใช่การยึดติดกับเด็กๆ มากอย่างที่ผมชอบพวกเขา มากเท่าที่ผมเป็นหนี้พวกเขา มากเท่ากับที่เราผ่านหลายๆ อย่างด้วยกัน งานของผมคือจัดทีมที่ดีที่สุดสำหรับวันนี้ ไม่ใช่วันนี้ ยิ่งเรามีทางเลือกมากขึ้น ทางเลือกระดับท็อปคลาสที่เรามี มันยิ่งขึ้นสำหรับสโมสร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างนั้น