เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอบคำถามหลากหลายประเด็นเกี่ยวกับอนาคตของเขา, การไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก และความท้าทายในการเจอกับเวสต์แฮมในระหว่างการแถลงข่าวที่แอกซ่า เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผานมา

และนี่คือถอดบทสัมภาษณ์ของผู้จัดการทีมหงส์แดง…

เขาสนุกสนานกับการไล่ล่าแมนฯ ซิตี้ ในตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกมากแค่ไหน

ผมต้องระมัดระวังสิ่งที่ผมพูด พวกคุณบางคนจะไปทำให้มันแปลกไป ผมสนุกกับสนานที่เราอยู่ นั่นคือความจริง สิ่งที่ผมไม่สนุก แต่รู้เช่นกัน (ว่า) คำถามเกี่ยวกับอะไร เพราะว่ามันเป็นการมองว่าเราชนะเกมต่างๆไปแล้ว และยังมีเกมอีกมากมายตลอดในระหว่างนั้น

ผมอยากจะชนะเกมวันพรุ่งนี้จริงๆ แต่ถ้าเราแพ้ พวกคุณทุกคนที่นั่งตรงนี้จะบอกผมว่าการลุ้นแชมป์ลีกจบลงแล้ว และอะไรทำนองนี้ ผมไม่มีความสามารถมากพอจะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆเหล่านี้ ผมไม่คิดถึงมันจริงๆ เรื่องเดียวที่ผมคิดถึงคือเวสต์แฮม หลังจากนั้นก็อินเตอร์ และไบรท์ตัน และอะไรก็ตาม

ทุกทีมยังยากที่จะเล่นด้วย ผมไม่สามารถคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะชนะในตอนจบ ผมไม่ฉลาดพอที่จะมีสมาธิ และอาจจะโฟกัสกับเกมเดียว มันไม่ใช่สถานการณ์โดยทั่วไป

แน่นอนว่าเราไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด แต่มีความท้าทายมากมายอยู่ตรงหน้าเรา ที่เราไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ในอารมณ์ไล่ล่า หรืออะไรแบบนั้น ผมแค่รู้สึกว่าเราหวังว่าเราจะพร้อมในวันพรุ่งนี้ในการเผชิญหน้ากับเวสต์แฮมในแบบที่ดีกว่าที่เราทำตอนที่เราเล่นที่นั่น (ในเกมเยือนลอนดอน สเตเดียม)

การเผชิญหน้ากับเดวิด มอยส์ และสถิติที่ผู้จัดการทีมเวสต์แฮมไม่เคยเก็บชัยชนะที่แอนฟิลด์

หวังว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไป! เขาเกือบทำได้ตามความคิดของผม สองครั้งตั้งแต่ผมอยู่ที่นี่(เขา)ทำได้ดีมาก สิ่งที่เวสตืแฮมทำเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก ผมต้องบอกอย่างนั้น ผมพอใจกับพวกเขา เขาเป็นเพื่อนร่วมอาชีพที่ดีมาก

หลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้น (กับเขา) ในอดีต หลังจากช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของเขาที่เอฟเวอร์ตัน ที่เป็นอยู่กับเวสต์แฮมอีกครั้ง และการเป็นตัวของเขาเองในแบบที่ดีมาก การทำงานในตลดานักเตะที่ชาญฉลาด การดึงนักเตะที่ดีมากเข้ามา และมีทีมที่แข็งแกร่งมาก

 

ตามปกติแล้วกับเราพวกเขามักจะเน้นรับและโต้กลับมากกว่า แต่ถ้าคุณปล่อยให้พวกเขาครองบอลในตอนนี้ ผมไม่แน่ใจว่าใครจะลงสนาม หรือใครฟิต แต่ (เดแคลน) ไรซ์ และ (โทมัส) ซูเช็คเป็นเบอร์ 6 ที่ยอดเยี่ยมทั้งสองคน และไม่ว่าใครจะลงเล่นในแดนหน้าก็แข็งแกร่งมาก (จาร์ร็อด) โบเว่น เขากลายเป็นนักเตะอะไรกัน น่าเหลือเชื่อมาก

 

ผมเคยเห็นกับที่ฮัลล์ (ซิตี้) และเขาทำได้ดีมากในเวลานั้น แต่ผมไม่แน่ใจว่าผู้คนมากมายจะคาดคิดถึงการก้าวกระโดดนี้ นักเตะที่น่าเหลือเชื่อมาก (ซาอิด) เบนราห์ม่าก็ยอดเยี่ยม (ปาโบล) ฟอร์นัลส์ยอดเยี่ยมมาก (มิชาอิล) อันโตนิโอยอดเยี่ยมมาก แน่นอนว่าผมคงจะลืมใครในแนวรุกไปอีกแน่

 

(พวกเขาเล่น) ด้วยความรวดเร็วทุกคน มีเทคนิค และการประสานงานที่ดีมาก แต่เราก็ไม่เลวเช่นกัน และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำให้พวกเขารู้สึก เพราะว่าในเกมกับเวสต์แฮม (ที่ลอนดอน สเตเดียม) ผมไม่คิดว่าเราเป็นตัวของตัวเอง อย่างน้อยก็ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณน่าจะเป็น

คุณน่าจะทำให้มันยากกว่านั้นสำหรับทีมอื่นๆ ที่จะทำประตูอย่างที่เราทำในวันนั้น มันผ่านมานานแล้วผมรู้ดี เรื่องดีๆ มากาายเกิดขึ้นหลังจากนั้น แต่ยังไงก็ตามเราก็ต้องทำให้ดีกว่าเกมแรก

เกี่ยวกับว่ามันเป็นงานยากไหมในการจัดทีมของเขาจากจำนวนนักเตะที่เขามี

ไม่ การจัดทีมไม่ใช่ปัญหา ผมทำงานนี้มานานพอที่จะรู้ว่าผมต้องการให้ทีมเล่นยังไงในเกมถัดไป และใครที่เหมาะสมมากที่สุด นั่นไม่ใช่ปัญหา

ปัญหาที่แท้จริงคือทีมที่ลงเล่นนัดชิง( คาราบาว คัพ) เพราะว่าตัวสำรองห้าคน ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมที่สุด และเราต้องพูดถึงมันตลอดเวลา เพราะทั้งโลกกำลังทำมัน และมันช่วยได้ในเกมฟุตบอล

เกมที่เราเล่นกับเชลซีเป็น (หนึ่งใน) เกมที่เข้มข้นที่สุดที่ผมเห็นสำหรับ 120 นาที ทางเดียวที่เป็นไปได้ เพราะว่าเรามีการเปลี่ยนห้าตัว มันไม่มีทางอื่นที่จะทำเรื่องนี้ และจากแนวทางในเกมก่อนๆ เช่นกัน เพราะว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมนักเตะเหล่านี้ต้องมีพลังในการทำเรื่องนี้ เพราะว่าเราสามารถเปลี่ยนตัวในบอลถ้วยได้ 5 คน

เราต้องพูดคุยเรื่องนี้ไปจนกว่ามันจะเกิดขึ้น (ในพรีเมียร์ลีก) มันเป็นเรื่องที่จำเป็นจริงๆ แต่อีกครั้งที่คุณลงเล่นเกมอย่างนี้ และคุณไม่ได้รับอนุญาตให้มีนักเตะมากกว่านี้ในทีม คุณไม่ได้เหรียญ และคุณต้องสั่งเหรียญมาทีหลัง ซึ่งบางเรื่องน่าจะดีกว่านี้ อย่างน้อยสำหรับผู้ชนะ ซึ่งผมคิดว่าแผนการสำหรับทั้งหมดจึงไม่มีปัญหาหลังจบทัวร์นาเมนต์

การหาตัวจริงสำหรับเกมไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผมตราบเท่าที่ผมมีนักเตะมากพอ แต่ต้องมีการอธิบายให้นักเตะบางคน บางทีที่คุณอาจจะไม่ได้ลงเล่นในวันนี้ แค่สำหรับวันนี้ และไม่ใช่หลายสัปดาห์ มันเป็นความจริง มันยังคงเจ็บปวด และพวกเขาไม่สมควรได้รับมัน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมไม่ชอบเรื่องนี้ แต่การมีนักเตะทุกคนพร้อมเป็นตัวเลือกแปลว่าเราจะมีรายชื่อตัวจริงที่ดีมากๆ

มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนความกระหายในทีมของเขาตั้งแต่คว้าแชมป์คาราบาว คัพ หรือไม่

เด็กๆ มั่นใจมาก พวกเขามีความมั่นใจมาก่อนใช่ สิ่งที่เป็นความแตกต่างอย่างมากคือมันผ่านมาสักพักตั้งแต่เรามีเกมนัดชิง และความรู้สึกของขนาดเกมชิงชนะเลิศ โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นที่เวมบลีย์ โอกาส 50-50 แฟนบอลจำนวนมาก เสียงเชียร์ บรรยากาศที่น่าตื่นเต้น การได้กลิ่น (และ) ประสบการณ์อย่างนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก และแน่นอนว่าเราอยากจะให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ อีกครั้ง นี่คือความจริง

ผมเคยพูดไปแล้วสองสามครั้งตอนที่เสียงนกหวีดสุดท้ายดัง หรือลูกยิงจุดท้าย หรืออะไรก็ตาม มันรู้สึกไม่มีความแตกต่างใดๆ กับเกมชิงแชมเปียนส์ลีก มันไม่แตกต่าง และมันดีมาก เราต้องการสัมผัสเรื่องนี้บ่อยขึ้น มันไม่ได้แปลว่าเราจะได้รับมันบ่อยขึ้นมันก็แค่แปลว่าเราอยากให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ

ความท้าทายในการรักษาสภาพร่างกาย และจิตใจให้ลูกทีมของเขาพร้อมจะลงเล่นท่ามกลางโปรแกรมที่ยุ่งมาก

ในส่วนของร่างกายเป็นเรื่องที่ยาก ยากอย่างที่สุด เพราะว่าคุณไม่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับมัน ถ้าผมอยากจะหายเหนื่อย มันไม่ได้แปลว่าผมหายเหนื่อยแล้ว การช่วยเหลือทำได้ แต่มันไม่ช่วยได้หมดจริงๆ นี่คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เราพยายามจะทำเรื่องนี้ ซึ่งเราเล่น 120 นาที บวกกับการดวลจุดโทษที่นานมากๆ ในวันอาทิตย์ ซึ่งมันชัดเจนว่าเราต้องเปลี่ยนตัว (ในเกมกับนอริชกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา)

ไม่มีใครที่เล่นมา 120 นาทีได้เป็นตัวจริง พวกเขาส่วนใหญ่ไม่อยู่กระทั่งในรายชื่อ ซึ่งเราผ่านเข้ารอบต่อไปได้ นี่เป็นเรื่องที่ดี แต่ตอนนี้เราจะต้องลงเล่นอีกครั้งสามวันต่อมากับทีมระดับท็อป ท็อปคลาสในยุโรปในฤดูกาลนี้อย่างชัดเจน

นี่คือมุมมองในส่วนของสภาพร่างกาย มันหนักจริงๆ จากในทางจิตวิทยา หรือมุมมองด้านสภาพจิตใจ… เราต้องตัดสินใจ เราตัดสินใจไป เราอยากจะประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราอยากจะใช้สถานการณ์ที่สโมสรมอบให้เรากับกลุ่มนักเตะที่ยอดเยี่ยมเล่านี้ และโค้ชดีๆ และอะไรทุกอย่างเหล่านี้

นี่คือสิ่งที่เราอยากจะทำความคุ้นเคย และนั่นแปลว่าเราต้องแสดงให้เห็นในเรื่องนี้ แต่ละสโมสรอาจจะมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างออกไป ของเราตั้งแต่อยู่ร่วมกันคือ ‘ความเข้มข้น’ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องแสดงให้เห็นในทุกๆ เกม   นั่นคือสิ่งที่เราคาดหวังจากตัวเราเอง และมันเป็นอย่างนั้น ซึ่งนั่นไม่ได้แปลว่าคุณต้องอยู่ในระดับสุดยอดของคุณตลอด แต่มันแปลว่าอย่างน้อยคุณต้องพยายามด้วยทุกอย่างที่คุณมีไปตลอด และนั่นคือสิ่งที่เราทำ

เกี่ยวกับพัฒนาการของอิบราฮิมา โกนาเต้ และมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับเซนเตอร์แบ็กที่เข้าๆ ออกๆ ทีมเลยใช่ไหม?

ไม่ แต่แน่นอนว่าคุณภาพในตัวเขาช่วยได้ เขาเป็นนักเตะที่ดีมาก เขามีทักษะทุกอย่างที่คุณต้องการในการเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ดี และมันเป็นอย่างนี้เสมอกับนักเตะที่อายุน้อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีทักษะอย่างนี้ หลังจากนั้นบางครั้งระดับสมาธิของคุณตกลงตรงนั้นตรงนี้นิดหน่อย เพราะว่าคุณคุ้นเคยกับการแก้ไขสถานการณ์ แม้แต่ตอนที่คุณตัดสินใจทำอะไรช้าไปนิดหน่อย และอะไรทำนองนี้

ซึ่งเขาสามารถทำได้ดีกว่านี้อีกมาก แต่เขาเป็นนักเตะที่ดีมาก นั่นช่วยได้อย่างที่สุด เรื่องอื่นๆ คือเซนเตอร์ฮาล์ฟของเรามีความสัมพันธ์ที่น่าทึ่งมาก ความสัมผัสที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งนั่นช่วยเหลือพวกเขาแต่ละคนด้วยเช่นกัน พวกเขาเรียนรู้กันและกัน เพราะว่ามันเป็นตำแหน่งที่พิเศษมาก

พวกเขาไม่ได้ลงเล่นตำแหน่งอื่นๆ โจอี้อาจจะออกไปเล่นแบ็กขวานิดหน่อย แต่นอกเหนือนั้นพวกเขาเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยพวกเขาได้เช่นกัน เพราะว่าพวกเขาสนิทสนมกันมาก และสนุกกับช่วงเวลาที่นี่ที่ในทีมชุดนี้ แม้แต่ตอนที่พวกเขาผิดหวังที่พวกเขาไม่อยู่ในทีม หรือไม่ได้ลงตัวจริง แต่ไม่มาก(ขนาดที่แปลว่า)พวกเขาจะไม่สามารถลงตัวจริงในเกมถัดไป นั่นเป็นเรื่องที่ดี

อนาคตในระยาวของตัวเขาเอง และความสามารถของทีมชุดปัจจุบันอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของเขาหรือไม่

ไม่จริงๆ ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ แผนการยังคงเหมือนเดิม ผมตระหนักตอนที่ผมต้องตอบ ผมคิดว่า ‘โอ้ พระเจ้า!’ แต่ผมไม่สามารถเอามันกลับมาได้ ผมก็แค่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์

แผนการยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจริง และถ้าผมตัดสินใจ ถ้าผมตัดสินใจนะ ว่าจะไป หรือผมอาจจะถูกไล่ออกในปี 2023 แต่ถ้าผมตัดสินใจจะไปในปี 2024 มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณภาพของทีม ดังนั้น ‘โอ้ พระเจ้า ผมต้องจัดการพวกเขา’ หรือ ‘หยุดจะดีกว่าที่จัดการพวกเขา’ มันไม่ได้เป็นอย่างนี้ มันไม่มีอะไรต้องทำกับเรื่องนี้

ทุกสิ่งที่เราทำเพื่อระยะยาว ทุกอย่างที่เราทำเพื่อระยะยาว สโมสรแห่งนี้จะยิ่งดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ผมไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไป และนั่นคือแผน นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำงาน ดังนั้นมันไม่สำคัญมากนักว่าผมจะอยู่ต่อนานแค่ไหน มันเป็นเรื่องสำคัญกว่าในสิ่งที่เราทำไปจนถึงตอนนั้น

เกี่ยวกับความสัมผัสระหว่างความปรารถนาในตัวเขากับทีมชุดนี้ที่จะคว้าถ้วยรางวัลมากขึ้น

เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน มีถ้วยรางวัลมากมาย ซึ่งเราจะต้องลองดู ปัญหาเดยวที่เรามีคือทีมอื่นๆ อีกมากมายอยากจะทำมันเช่นกัน ในยุโรปมีหลายทีม (และ) ในอังกฤษมันเป็นแบบ…ลองนึกภาพซิตี้ไม่อยู่ที่นี่ คงจะมีถ้วยรางวัลมากกว่านี้ที่เราจะชนะ! แต่พวกเขาอยู่ที่นี่ และมันไม่ใช่ปัญหา เราคอยผลักดันกันและกันในระดับที่สูงจริงๆ

 

เราไม่ได้เซตขีดจำกัดของเราจริงๆ ทำไมเราจะต้องทำ แต่เรารู้ว่ามันยากมาก ยากจริงๆ มันเป็นคำถามในเรื่องมุมมองเสมอ ผมไม่คิดว่าถูกที่เราได้แชมป์ไม่มากพอจนถึงเวลานี้ แต่คุณคิดตลอดว่าอาจจะเป็นตรงนั้นตรงนี้ที่คุณน่าจะได้แชมป์มากกว่านี้

เราโชคร้ายนิดหน่อยในหลายๆ ช่วงเช่นกัน ตอนนี้เราได้แชมป์คาราบาว คัพ และทันใดนั้นเราขาดถ้วยเดียวคือ ‘ได้แชมป์เอฟเอ คัพ และหลังจากนั้นคุณจะสะสมคอลเลคชั่นทั้งหมดครบ’อะไรแบบนี้ และมันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แต่ผมคงไม่ใส่ใจกับมันมากนัก มันก็แค่มีการแข่งขันใช่ไหม? ใช่? เราพยายามจะชนะมันถ้าเป็นไปได้ และถ้าไม่แล้วเรายังต้องพยายามจะอยู่ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเราเอง มันเป็นอย่างนั้น

คุณอาจจะอยู่ในวินาทีที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเราโชคร้ายมากหลังจากฤดูกาลที่ดีมาก และมันช่วยเราได้มากสำหรับในอนาคต ก็ต้องเรียนเรียนรู้ที่จะลงเล่นบ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการเล่นฟุตบอลในระดับสูงที่สุด มันถึงจะทำให้คุณมีโอกาสจริงๆ ที่จะได้แชมป์บางอย่าง โชคร้ายมาก ที่ไม่มีการการันตีในเรื่องนี้