ลิเวอร์พูลทำผลงานก่อนเกมลีกจะเปิดฉากได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 และคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ได้สำเร็จ

รายชื่อนักเตะ  

11 ตัวจริง: อาเดรียน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้, ดิอาซ, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: เดวีส, โกเมซ, โกนาเต้, มิลเนอร์, เกอิต้า, โจนส์, เอลเลียตต์, นูนเญซ และคาร์วัลโย่

 

จังหวะที่สำคัญ

  • นาที  21 เทรนต์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 70 อัลวาเรซตีเสมอให้แมนฯ ซิตี้ 1-1
  • นาที 83 ซาลาห์ยิงจุดโทษให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1
  • นาที 90+4 นูนเญซโหม่งให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1

 

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ด้วยการพบกับแมนฯ ซิตี้ ที่สนามคิง เพาเวอร์

นาที 3 ซาลาห์เลี้ยงมาทางฝั่งขวาก่อนจะได้จังหวะซัด บอลไปเข้าข้างตาข่าย

นาที 8 เดอ บรอยน์พาบอลขึ้นมายิงด้วยเท้าซ้าย ลูกพุ่งเข้าข้างประตู

นาที 14 โรเบิร์ตสันเติมขึ้นมาลุ้นทำประตูทางด้านซ้าย แต่การพุ่งโหม่งของเขาไปเข้าด้านข้างตาข่าย

นาที 19 เฮนเดอร์สันเปิดบอลไปหน้าประตูจะให้เฟอร์มิโน่แต่เอแดร์สันพุ่งปัดออกไปได้เสียก่อน

นาที 21 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บรรจงยิงบอลจ่ายมาให้ของซาลาห์, ลูกเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม ลิเวอร์พูลออกนำแล้ว 1-0!

นาที 24 เดอ บรอยน์ได้โอกาสจบสกอร์ทางฝั่งขวา บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

นาที 31 อาเดรียนใช้มือพุ่งปัดการยิงของมาห์เรซได้อย่างยอดเยี่ยม

นาที 34 อาเดรียนป้องกันการยิงของฮาลันด์เอาไว้ได้

นาที 39 มาห์เรซยิงมุมแคบ ตรงตัวอาเดรียน

นาที 45+1 ซาลาห์เปิดบอลไปหน้าประตู เอแดร์สันพุ่งรับเข้ามือ

จบ 45 นาทีแรกในเลสเตอร์ ลิเวอร์พูลออกนำ 1-0 จาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

เกมในครึ่งหลัง

 นาที 46 อาเดรียนทุบการยิงจ่อๆของมาห์เรซในเขตโทษได้ดี

นาที 58 นูนเญซลงสนามมาแทนที่ของเฟอร์มิโน่

นาที 64 นูนเญซได้ยิงในเขตโทษ ไม่ผ่านเอแดร์สัน

นาที 70 แมน ซิตี้ตีเสมอ 1-1 จาก ยูเลี่ยน อัลวาเรซ

นาที 74 ลิเวอร์พูลส่งมิลเนอร์กับเอลเลียตลงมาแทนที่ของเทรนต์กับเฮนเดอร์สัน

นาที 81 นูนเญซโหม่งบอลของซาลาห์ไปโดนมือของดิอาซในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษของลิเวอร์พูล!

นาที 82 ดิอาซรับใบเหลืองจากการที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสิน

นาที 83 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงจุดโทษไม่พลาด ลิเวอร์พูลขึ้นนำอีกครั้ง 2-1!

นาที 85 เกอิต้าลงสนามมาแทนที่ของติอาโก้

นาที 87 นูนเญซขึ้นโขกบอลของมิลเนอร์ ลูกหลุดเสาออกไปแบบได้ลุ้น

นาที 88 โรเบิร์ตสันขึ้นมายิงตรงริมกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไป

นาที 90 คาร์วัลโย่ลงมาเล่นแทนที่ของดิอาซ

ทดเจ็บครึ่งหลัง 7 นาที

นาที 90+4 ดาร์วิน นูนเญซ พุ่งขวิดจ่อๆให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 3-1!

นาที 90+5 โจนส์ลงมาแทนที่ของซาลาห์

นาที 90+6 ฮาลันด์พุ่งเข้ามาซัดจ่อๆในจังหวะอาเดรียนเซฟการยิงของโฟเด้นแต่ไม่เข้า

จบเกม ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ประจำฤดูกาล 2022/23!