การที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นเจ้าของสถิติพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูลเป็นความสำเร็จที่เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คไม่สามารถมองข้าม

นักเตะอียิปต์ทำสองประตูในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงสถิติของร็อบบี ฟาวเลอร์ และขยับไปทำ 129 ประตูให้กับหงส์แดงรวมจากการลงเล่นเพียง 205 นัด

“โมแสดงให้เห็ว่าทำไมเขาเป็นนักเตะที่สำคัญมากของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ เขามีอิทธิพลอย่างมากกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแง่บวกตลอดหลายปีที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะรักษามันไว้ต่อไป” ฟาน ไดจ์คกล่าว

“สำหรับเขาการเป็นดาวซัลโวตลอดกาลในพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูลเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้าม ชัดเจนว่าเขาไม่ควรถูกมองข้าม และผมจะไม่มองข้าม เขาจะไม่ปัดมันทิ้ง เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่พิเศษ”

โกดี้ คักโป และดาร์วิน นูนเญซทำสองประตูในระหว่างที่ลิเวอร์พูลไล่ถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งฟาน ไดจ์คกล่าวเสริมว่า “เด็ดขาดมาก ผมคิดว่าหลายๆ ประตูเป็นระดับเวิลด์คลาส”

“ลูกแรก การสร้างสรรค์ทั้งหมดยอดเยี่ยมมาก โกดี้ตัดเข้าเท้าขวาของเขา การจบสกอร์ที่มีคุณภาพ ดาร์วินเป็นสาเหตุของความโกลาหลด้วยความเร็วของเขา ความหลงไหล และเช่นกันกับคุณภาพที่เขามี”

ตอนนี้ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์เก็บคลีนชีตห้านัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก ในขณะที่เก็บได้มากถึง 13 แต้มเพิ่มโอกาสที่จะติดท็อปโฟร์

ฟาน ไดจ์คยืนยันว่า “ผมคิดว่าโดยเฉพาะสามเกมล่าสุดทำให้ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกดีมาก วิธีการแสดงความมุ่งมั่นในเกมรับ และสนุกกับการเก็บคลีนชีต”

“แม้แต่ตอนที่เราขึ้นนำ 4-0, 5-0 ผมคิดว่านั่นคือข้อความที่ทำให้แน่ใจว่าคุณไม่เสียประตู และยังคงรักษาสมาธิ นั่นเป็นเรื่องที่ดีมาก”

“เราไม่ควรปัดเรื่องนี้ทิ้งเหมือนกับวันอื่นๆ เราชนะ 7-0 หลังจากฤดูกาลที่ยากลำบากที่เราจะมี คุณน่าจะยืนนิ่ง และสนุกกับมันนิดหน่อย แต่ในวันจันทร์มันจะเป็นอดีต หลังจากนั้นโฟกัสจะหันไปที่เกมกับบอร์นมัธ นี่คือความเป็นจริง และนั่นคือชีวิตที่เราเป็นอยู่”

“มันจะยาก เกมคิกออฟในเวลา 12.30 น. เป็นเรื่องยากเสมอ ในสนามขนาดเล็ก เรานาจะมั่นใจเต็มที่ แต่ต้องถล่มตัว และเตรียมพร้อม”

“เราจะไม่มองข้ามผลการแข่งขัน แต่ยังมีเกมอีกมากให้ลงเล่นเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่เราต้องการนี้ ในกรณีนี้มันคือการเล่นฟุตบอลแชมเปียนส์ลีก”