จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้กล่าวยกย่องความยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนเกมที่ลิเวอร์พูลจะพบกับฟูแล่ม

ซาลาห์ทำประตูที่ 184 ของเขาในเกมนัดที่ 300 ที่เขาลงสนามให้กับสโมสรด้วยลูกจุดโทษ ในเกมสุดดราม่าที่ลิเวอร์พูลเอาชนะทอตแนม ฮอตสเปอร์ 4-3 ที่แอนฟิลด์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ตอนนี้ นักเตะหมายเลข 11 อยู่ในอันดับที่ 6 ในลำดับรายชื่อดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของลิเวอร์พูล โดยเหลืออีก 2 ประตูเท่านั้นที่จะทำให้เขาทำสถิติยิง 30 ประตูอีกหนึ่งฤดูกาล

ในคอลัมน์สำหรับหนังสือโปรแกรมทางการของเกมในค่ำคืนนี้ เฮนเดอร์สันเขียนว่า “เมื่อนักเตะคนหนึ่งโชว์ฟอร์มในระดับสูงอย่างเหลือเชื่อเป็นปกติ สิ่งต่าง ๆ มี่พวกเขาทำในบางครั้งก็สามารถถูกมองเป็นเรื่องธรรมดาหรือไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นอีก”

“ผมพูดเรื่องนี้ เพราะโม ซาลาห์ใกล้จะทำสถิติยิง 30 ประตูเป็นฤดูกาลที่สี่จากหกฤดูกาลที่เขาอยู่กับลิเวอร์พูล สถิติอันน่าเหลือเชื่อที่มีค่าคู่ควรให้ชื่นชมเป็นพิเศษ”

“ประตูที่โมทำได้มันบ่งบอกอยู่แล้วในตัวมันเอง มันมีอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณอยากจะใช้อะไรวัดผลก็ตาม ทั้งความหลากหลาย, คุณภาพ, คุณค่า และลักษณะของฝ่ายตรงข้าม เขามีคงามสามารถพิเศษอันน่าเหลือเชื่อที่มาพร้อมกับประโยชน์มากมายสำหรับ และเขาทำมันตั้งแต่แรกที่เขามาอยู่ที่นี่เลย”

 

“การเห็นเขาพัฒนาในวิถีทางที่เขาทำมันเหมือสิทธิพิเศษและมันก็ไม่ใช่การพูดที่เกินจริงเลยว่าเขาได้กลายเป็นหนึ่งในตัวจบสกอร์ที่น่ากลัวที่สุดในโลก”

“ผมยังรู้ดีว่าโดยหลัก ๆ แล้ว เพราะโมเองไม่ชอบอะไรมากไปกว่าการบอกคนนั้นคนนี้เกี่ยวกับสถิติของเขา! ว่าเขาเหลืออีกแค่นิดเดียวจะได้ขึ้นไปอีกในอันดับที่ 5 ในรายชื่อดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสรแล้ว”

“สถิติแบบนี้อาจสร้างความประทับใจได้อย่างมากมาย แต่มันยังมากกว่านั้นเมื่อคุณพิจารณาว่าโมมาที่นี่เมื่อปี 2017 การทำให้ตัวเขาเองไปอยู่รวมกับบรรดาดาวซัลโวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างลิเวอร์พูลถือเป็นความสำเร็จอันน่าเหลือเชื่อในกรอบระยะเวลาแค่นี้มาก การใช้เวลาน้อยกว่า 6 ปี แบบนี้”

“จากมุมมองของเพื่อนร่วมทีม มั้งหมดที่ผมสามารถพูดได้ คือ นี่อาจจะดำเนินต่อไป สถิติที่มากกว่านี้ที่โมสามารถทำลายได้อีก ไม่แค่เพื่อตัวเขาเอง แต่ยังเพื่อทีมทั้งหมดด้วย เพราะเมื่อคุณมีนักเตะทำประตูได้เป็นประจำแบบที่โมทำ มันก็ช่วยได้ยิ่งกว่ามาก”

“แน่นอนว่านี่ไม่ใช่บางสิ่งที่เราจะมองข้ามไปได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าโมทำถึง 30 ประตูได้อีกครั้ง เขาจะได้รับการยกย่องอย่างยิ่งใหญ่กับความสำเร็จที่คู่ควร”