สโมสรลิเวอร์พูลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของแลร์รี ลอยด์

ลอยด์ซึ่งลงเล่นไป 218 นัด และคว้าแชมป์ลีก และยูฟ่า คัพระหว่างช่วงเวลา 5 ปีกับหงส์แดง ได้เสียชีวิตในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา

บิล แชงคลีย์เซ็นสัญญามาจากบริสตอล โรเวอร์สในเดือนเมษายน ปี 1969 เพื่อมาแทนที่รอน ยีตส์ตำนานในแดนหลัง ลอยด์ได้ประเดิมสนามในปีต่อมา

หลังจากผ่านไปเพียงเก้าเกมในฤดูกาลแรกของเขาที่แอนฟิลด์ ลอยด์ที่โดดเด่นในลูกกลางอากาศ และเข้าสกัดได้อย่างแข็งแกร่งก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมตลอดสี่ฤดูกาลถัดมา

มีการลงเล่น 60 นัดตลอดฤดูกาล 1970-71 ขณะที่ทีมที่สร้างใหม่ของแชงคลีย์พ่ายแพ้อย่างหวุดหวิดในรอบรองชนะเลิศแฟร์ คัพ และต่อด้วยเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ

ลิเวอร์พูลพลดาดคว้าแชมป์ในปีถัดไปแค่แต้มเดียวเช่นกัน แต่ถ้วยรางวัลก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมสำหรับลอยด์ และเพื่อนร่วมทีมของเขา

แลร์รีคว้ามันมาได้ในระดับส่วนตัวในที่สุด โดยเป็นตัวจริงทุกรายการจาก 66 เกมของหงส์แดงในทุกรายการในฤดูกาล 1972-73 ซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ลีก และยูฟ่า คัพ แท้จริงแล้ว

ประตูของลอยด์ทำให้มัน  3-0 ในเลกแรกของเกมยุโรปที่พบกับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ากลายเป็นประตูสำคัญให้ทีมชนะ เมื่อ ลิเวอร์พูลคว้าชัยด้วยสกอร์รวม 3-2

ลอยด์ (คนที่สองจากซ้าย) หลังจากคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1973

เขาเพิ่มเกมอีก 40 เกมในฤดูกาลหน้าทำให้ลงเล่นให้กับสโมสรเกิน 200 นัด รวมถึงสามเกมในช่วงแรกของการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งที่สองในปี 1974

แลร์รีออกจากแอนฟิลด์ในปีนั้นเพื่อย้ายไปโคเวนทรี ซิตี้ แม้ว่าภายหลังจะเปลี่ยนไปอยุ่กับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งจะทำให้คอลเลกชันเกียรติยศของเขาเพิ่มขึ้นอีก

ช่วงเวลาดีๆ กับฟอเรสต์รวมถึงการคว้าแชมป์ยูโรเปียน คัพ สองครั้ง และได้รับเหรียญรางวัลจากการเป็นแชมป์ลีก ก่อนที่อาชีพการเล่นของเขาจะจบลงที่วีแกน แอธเลติก

ลิเวอร์พูลขอไว้อาลัยให้กับลอยด์ด้วยการปรบมือที่แอนฟิลด์ในวันอาทิตย์นี้ เมื่อหงส์แดงเปิดบ้านรับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

ทุกคนในสโมสรขอส่งความคิดถึงครอบครัวและเพื่อนๆ ของแลร์รี่ในช่วงเวลาที่น่าเศร้านี้

ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของ แลร์รี ลอยด์ 1948-2024