หนึ่งปีของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กับลิเวอร์พูล (ตอนที่ 3)

เมื่อคุณย้ายมาอยู่กับสโมสรใหม่ มันมักจะเป็นไปเหมือนกับไปโรงเรียนวันแรก คุณจะสงบเสงี่ยมนิดหน่อย คุณไม่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ เพราะว่ามันมักจะยากเสมอ

เราเล่นเกมกับเอฟเวอร์ตัน และหลังจากนั้นเราไปที่ดูไบ ซึ่งผมได้รู้จักเพื่อนๆ มากขึ้น และวิธีการต่างๆ ของพวกเขา วิธีการเล่นฟุตบอลของพวกเขา นั่นช่วยผมได้เป็นอย่างมาก เราสร้างความสัมพันธ์กันแล้วเกือบทุกคน เราได้ดินเนอร์ร่วมกัน เราได้พูดคุยกันหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิต ไม่แค่เรื่องเกี่ยวกับฟุตบอล ซึ่งมันช่วยให้ผมได้ก้าวไปอีกขั้น เพื่อทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากโซนของเด็กใหม่ ถ้าจะให้ผมเรียกล่ะก็!

ผมคิดว่าหลังจาก 2-3 เกม คุณรู้สึกเหมือนคุณปรับตัวได้ คุณเข้าใจแท็กติกทั้งหมดอย่างถูกต้อง และคุณสามารถเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

ในสนามมันง่ายกว่าที่จะเป็นตัวของตัวเอง แสดงตัวตนออกมา แต่นอกสนามมันสำคัญเสมอที่คุณจะต้องเป็นตัวเอง ผมชอบที่จะมีความสุข พูดคุยเสียงดัง อยู่กับเพื่อนๆ ทุกคน พูดคุยกัน นั่นเป็นคนแบบที่ผมเป็น และหลังจากสองสัปดาห์แรกมันไปได้สวย ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

คุณภาพของนักเตะ และคนรอบตัวผมแสดงออกชัดเจนอย่างรวดเร็วมาก ตอนที่ผมเริ่มต้นฝึกซ้อมกับเด็กๆ และลงเล่นเกมต่างๆ บางทีคุณต้องคิดว่า ‘ว้าว!’  คุณแค่สนุกกับมันอย่างนั้น จากภายนอก คุณเห็นเรื่องต่างๆ มากมายที่คุณคิดว่าดีมาก แต่เมื่อคุณได้เห็นมันอย่างใกล้ชิดจริงๆ ทุกๆ วัน มันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป ผมรู้สึกอย่างนั้นค่อนข้างเร็ว

ในสนามมันไปได้สวย และเราเดินหน้าอย่างมหัศจรรย์เข้าถึงแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ

เกมแชมเปียนส์ลีกนัดแรกของผมกับสโมสรเป็นเกมเยือนปอร์โต้ และมันบ้ามากๆ ถ้าพูดตามตรง เรามีการประชุมกันมากมาย เพราะว่าปอร์โต้ไม่แพ้ในบ้านมานาน ดังนั้นเราต้องแน่ใจว่าเราเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่

เรามีการเตรียมการ

สภาพอากาศแย่มากในค่ำคืนนั้นเท่าที่ผมจำได้ ฝนตกหนักมาก แต่เราแค่เล่นตามเกมของเรา และมีความโดดเด่นทั่วทั้งสนาม  เราเหนือกว่าตลอดทั้งเกม และมันเป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยม เรามีความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมหลังจบเกม

มันดำเนินต่อไปในรอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศกับแมนฯ ซิตี้ และโรม่า เกมเหล่านี้ที่แอนฟิลด์น่าจะเป็นสองเกมที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น และลงเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซิตี้ มันโดดเด่นมาก

ทุกอย่างลงตัว และประตูที่เราทำได้มหัศจรรย์มาก เราทำให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้ความกดดัน เราเหนือกว่าเป็นส่วนใหญ่ ชัดเจนว่าพวกเขามีช่วงเวลาของพวกเขา เพราะทีมที่ดีมักจะมีช่วงเวลาของตัวเอง และซิตี้เป็นทีมที่โดดเด่น แต่ชัยชนะ 3-0 เป็นเรื่องที่พิเศษสำหรับเรา บรรยากาศเป็นบางอย่างที่แตกต่าง มันคึกคักตลอด 90 นาทีเต็ม ผมจะไม่มีวันลืมมัน

เลกที่สองกับซิตี้เข้มข้นมาก ผมมั่นใจว่าเราจะผ่านมันไปได้ เพราะว่าผมเชื่อว่าเราน่าจะทำได้อย่างน้อยหนึ่งประตู อาจจะสอง เพราะโมเมนตัมที่เราสร้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสามประสานในแดนหน้า ถ้าพวกเขาเห็นช่อง ผมเชื่อว่าเราจะทำประตูได้

เราปิดเกมในครึ่งหลัง ประตูของโมเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฤดูกาล และมันรู้สึกโล่งอกเช่นกัน ถ้าคุณมองดูในครึ่งหลัง มันคู่ควรมากเช่นกัน  เราเริ่มเพรสซิ่งพวกเขาอีกครั้ง ทำให้แน่ใจว่าเราจะมีแนวรับที่เพรสซิ่งสูงแทบที่จะปล่อยให้มีช่องว่างอย่างที่เราทำในครึ่งแรก เมื่อโมงทำประตูนั้นได้ มันเป็นธรรมดาที่เกมจะจบ

มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เพราะหลังจากเสียงนกหวีดยาวในกรุงโรมที่เราเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ และเราสามารถเฉลิมฉลองกับแฟนๆ ของเราในสเตเดียม