ปฏิกิริยาของคล็อปป์ หลังเกมลิเวอร์พูลเสมอกับเลสเตอร์ 1-1
เจอร์เกน คล็อปป์ รู้สึกว่าสถานการณ์ต่างๆ ในเกมทำให้ลิเวอร์พูลเสมอเลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ซึ่งเป็นผลการแข่งขันที่เขามองว่ายุติธรรม และ ‘โอเคอย่างที่สุด’ สำหรับลูกทีมของเขา หลังจากนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกออกไปเพิ่มเป็น 5 แต้ม
และนี่คือประมวลคำให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวหลังเกมของผู้จัดการทีม...
พูดถึงเกม...
ผมไม่ได้มองมันว่าเราทำแต้มหลุดมือ เรายอมรับสิ่งที่เราได้ ค่ำคืนนี้มันคือหนึ่งแต้ม และนั่นมากกว่าที่เรามีก่อนเกม ดังนั้นมันโอเค
แล้วผมพอใจสุดๆ หรือไม่? ไม่ แน่นอนว่าไม่ เราต้องการชนะเกมนี้ แต่เรารู้ก่อนหน้านี้ว่า มันจะเป็นเกมที่ยากจริงๆ และหลังจากนั้นเริ่มมีหิมะตก และมันทำให้มันไม่ง่ายเลย
หิมะไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง ปัญหาเดียวคือ มันกองอยู่ในสนาม และจริงๆ แล้วมันเป็นเคสแบบนั้น คุณมองออกว่าบอลกลิ้งไม่ได้เลยจริง และถ้าคุณครองบอลได้ราว 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว มันจะทำให้ชีวิตยากลำบากจริงๆ
ถึงอย่างนั้น เรายังคงทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะว่าในจังหวะสุดท้ายเป็นไปได้กับวิธีการป้องกันของเลสเตอร์ที่เรา (น่าจะ) เล่นระหว่างแนวรับ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำตอนช่วงได้ประตูแรก
ทันใดนั้นในสถานการณ์คล้ายๆ กันที่เราไม่ได้บอลในจังหวะสุดท้าย หรือลูกจ่ายบอลจังหวะสุดท้ายไม่สมบูรณ์แบบ แต่เรามีสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้
แต่การเจาะทีมที่ตั้งรับอย่างเลสเตอร์ทำให้ได้คุณต้องเร่ง และเพิ่มความเร็วขึ้นในพื้นที่ชี้เป็นชี้ตาย
บางครั้งเราไม่ได้ทำมัน ผมไม่รู้แน่ชัดว่าทำไม และบางครั้งเราไม่สามารถทำได้ เพราะว่าเป็นเรื่องที่ยาก คุณสามารถครองบอล และผ่านทะลุแนวรับที่ยืนในระบบที่รัดกุมได้จริงๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราไม่ได้มีจังหวะมากมายนักในครึ่งแรก และหลังจากนั้นเราปล่อยให้เสียประตู
มีนาทีเดียวให้เล่น และอยู่ที่ว่าเราจะโต้กลับ หรือเก็บบอลแล้วทุกๆ อย่างจะสบาย แต่ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ คุณต้องเจอบทเรียนจากความผิดพลาดตลอดเวลา และแน่นอนว่าฟุตบอลเป็นอย่างนั้น อาจจะไม่ทุกครั้ง แต่บางครั้ง
ในเคสนี้เราเสียฟรีคิก เราตั้งรับได้ในจังหวะแรก และป้องกันจังหวะที่สอง แต่จังหวะที่สาม ชัดเจนว่า ชิลเวลล์ตื่นตัวตลอดเวลา และต้องการจ่ายย้อนเข้าไป และแม็คไกวร์สามารถจบสกอร์ได้
มันไม่ได้รู้สึกดีนัก แต่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเสมอ 1-1 ในช่วงพักครึ่ง เราพยายามจะทำเรื่องดีๆ 2-3 เรื่องอีกครั้งในครึ่งหลัง และปรับปรุงเรื่องต่างๆ 2-3 เรื่อง
มันเป็นเกมที่เปิดกว้างมากขึ้นในครึ่งหลัง เพราะว่าเลสเตอร์มั่นใจมากขึ้น และปรับ 2-3 อย่าง พวกเขาได้บอลบ่อยขึ้น ซึ่งเราต้องตั้งรับ เราต้องวิ่ง พวกเขามีจังหวะ และสถานการณ์ที่สร้างโดยเฉพาะจากลูกตั้งเตะ พวกเขามีโอกาสหลายครั้ง และดังนั้น 1-1 ก็โอเคอย่างที่สุดแล้ว
ผมคิดว่า ทุกๆ คนเห็นพ้องต้องกันว่า มันน่าจะเป็นจุดโทษ และอาจจะได้ประตูจากจุดโทษ ผมไม่รู้ว่า ทำไมมันไม่เป็นจุดโทษ และหลังจากนั้นเรามีจังหวะจากแม็คไกวร์ (ฟาวล์มาเน่)
มันเป็นครั้งที่สองในเกมที่ศูนย์หน้าจากทีมของผม บางคนดึงเขาล้มลงบนเส้นกลางสนาม และเราถูกปฏิบัติราวกับว่า มันเป็นผมไม่รู้ว่าตรงไหน เขาไม่ได้หลุดเดี่ยว เพราะว่าโม ซาลาห์ อยู่ใกล้ๆ กับเขา มันเป็นสถานการณ์แบบสองต่อชไมเคิลคนเดียว ถ้าไม่นับว่า เป็นโอกาสที่แท้จริง โอกาสที่จะทำประตูแล้ว ผมคงไม่รู้จะเป็นจังหวะไหน
แต่อีกครั้งที่เลสเตอร์มีโอกาสหลายครั้ง และพวกเขาไม่ต้องทำอะไรกับสถานการณ์เวลานั้น มันเป็นเรื่องของกรรมการ ตอนนี้เราต้องยอมรับผลการแข่งขัน ซึ่งเป็นเรื่องไร้ปัญหา เพราะว่าเราไม่คิดว่าจะเดินหน้าในลีกต่อไป และเอาชนะทุกๆ ทีม เราพร้อมสำหรับการทำงานหนัก ในลีกที่ยากบนพื้นสนามที่ยากที่เราได้หนึ่งแต้ม ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ยังคงดีมากพอ
เขาผิดหวังหรือไม่ที่ไม่สามารถเพิ่มช่องว่างในตารางคะแนน หลังจากแมนฯ ซิตี้ แพ้ต่อนิวคาสเซิลในค่ำคืนวันอังคาร...
ผมจะผิดหวังหลังจากที่เราไม่ชนะเกมหรือไม่? แน่นอนว่าผมผิดหวัง ผมไม่ได้นำมันมารวมกับเกมของแมนฯ ซิตี้ ผมเข้าใจกับความคิดเหล่านี้ แต่ตอนนี้เราจะทำอะไรได้? คุณคิดอะไรตอนที่ถาม? มันเป็นเรื่องที่ง่ายจริงๆ ที่จะถามคำถามทั้งหมดเหล่านี้ แต่เราต้องทำให้แน่ใจว่า มันจะไม่ส่งผลต่อเราอะไรมาก จากเรื่องต่างๆ ทั้งหมดเหล่านี้
เด็กๆ เป็นคนธรรมดา ผมก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป เราต้องการชนะเกมฟุตบอล เราไม่ชนะ และดังนั้นเราไม่ได้รู้สึกดีที่สุด หลังจากนั้นเราต้องพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำว่า มีความหมายจาก (ผลการแข่งขัน) แมนฯ ซิตี้หรือไม่? ไม่มากเลย ถ้าพูดตามตรง
เรามีแต้มมากกว่าก่อนหน้านั้น มันไม่ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่เราต้องการจะมี แต่ทุกอย่างยังสบายดี อย่างที่ผมเข้าใจ ณ เวลานี้ ผมไม่คิดว่าใครได้รับบาดเจ็บเพิ่ม ซึ่งแน่นอนว่านั่นช่วยเราเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เรามีเวลา 2-3 วันในการเตรียมตัวสำหรับเกมกับเวสต์แฮม และหลังจากนั้นเราจะเดินหน้าต่อ หลังจากนั้นบอร์นมัธ และเราจะเดินหน้าต่อไป และอะไรทุกอย่างเหล่านี้ นั่นเป็นสิ่งที่เราจะทำ ไม่ได้นับแต้ม และหวังเกี่ยวกับช่องว่างระหว่างเรา และทีมอื่นๆ เราต้องชนะเกมฟุตบอลของเรา นั่นไม่ได้เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ และดังนั้นเราไม่มีความสุขเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น
เขารู้สึกอย่างไรกับการตอบสนองของลูกทีมกับการเบรก 11 วันที่พวกเขามีก่อนเกมนัดนี้...
เราพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนเกม เราไม่ได้มีเกมต่างๆ ในเวลานั้น แต่ปัญหาคือ เรามีเรื่องต่างๆ หลายอย่าง
การบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ เพราะพวกเขาไม่ได้ใช้เวลาเกิน 10 วัน แต่พวกเขาไม่สามารถฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นมีอาการป่วย (สำหรับ) นักเตะ 2-3 คน ซึ่งไม่ช่วยเลยเช่นกัน เราไม่ได้มีปัญหากับความเข้มข้นของเกม เราสดมากพอ เราสดเหมือนกับทีมอื่นๆ
สำหรับเรา ผมไม่ได้รู้สึกเป็นข้อได้เปรียบมากมายนัก เพราะว่าเราไม่ได้ลงเล่น แต่มันจะเป็นเรื่องยากจริงๆ สำหรับเราถ้าเราต้องลงเล่น เพราะว่าเรามีนักเตะหลายคนๆ ที่มีปัญหาสำหรับการฝึกซ้อม ดังนั้นจะทำให้มันยากขึ้นในการลงเล่นเกมฟุตบอลอย่างเหมาะสม
ในมุมมองเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ดี แต่มันไม่สำคัญอีกต่อไปในตอนนี้ ทีมอื่นๆ ลงเล่นเกมเหล่านี้ และพวกเขา 2-3 ทีม ผมไม่รู้ เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ หรือทีมที่ไม่ได้เข้ารอบชิง แต่เราส่วนใหญ่นอกจากเกมนัดเดียวนี้ อาจจะมีจำนวนเกมตัวเลขเหมือนกันกับทีมอื่นๆ
ตอนที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ เรามีเกมลงเล่น 64 เกมจนจบฤดูกาล และลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ผมจำไม่ได้มีใครถามว่า ‘คุณรู้สึกสดชื่นไหม?’ เราต้องถ่ายทอดออกมาตอนลงเล่นเอฟเอ หรือใครก็ตามต้องการให้เราลงเล่นที่ใดก็ตาม หลังจากนั้นเราต้องอยู่ที่นั่น
จอร์แดน เฮนเดอร์สันถูกปรับยืนแบ็กขวา..
มัน (เป็นฟอร์มที่) ดี เราต้องหาทางแก้ เราคิดเกี่ยวกับราฟา กามาโช่เช่นกัน เราเล่นตรงนั้นในการฝึกซ้อม เพราะว่าเฮนโด้ไม่สามารถลงฝึกซ้อมทั้งสัปดาห์
หลังจากนั้นในท้ายที่สุด ผมต้องตัดสินใจเกี่ยวกับแง่เกมรับ และประสบการณ์ของเขามากกว่าในตำแหน่งนี้ เพราะว่าพวกเขาต้องเจอมันในฝั่งนี้
โดยปกติชิลเวลล์มักจะมีส่วนในการเล่นเกมรุก ตัดสลับขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ และอะไรแบบนี้ ดังนั้นผมไม่ต้องการให้ราฟาในเกมแรกของเขาในตำแหน่งนี้เจอบททดสอบที่หนักมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราตัดสินใจเกี่ยวกับเฮนโด้ และเขาทำได้ดีจริงๆ และทุกอย่างดีเกี่ยวกับมุมมองในเรื่องนี้