ความกระหายที่จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นคุณลักษณะภายในทีมของลิเวอร์พูลที่เจอร์เก้น คล็อปป์ มองว่ามีคุณค่ามากที่สุด

หนึ่งปีหลังอกหักจากการปราชัยในแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศต่อเรอัล มาดริด ในเคียฟ หงส์แดงได้ลุ้นชูถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลของสโมสรยุโรปอีกครั้ง ในการพบกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ในวันเสาร์นี้

และหลังจากมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมเก็บได้ถึง 97 แต้มในพรีเมียร์ลีก ผู้จัดการทีมได้ยกย่องความแข็งแกร่ง และคุณภาพในตัวลูกทีมของเขา

“มันมีอิทธิพลต่อเรามากๆ” คล็อปป์ย้อนรำลึกถึงความพ่ายแพ้ต่อเรอัลในยูเครน

“ผมจำสถานการณ์นั้นได้ตอนที่เรายืนเข้าคิวที่สนามบินในเคียฟระหว่างทางกลับบ้าน ทุกคนในชุดวอร์ม คอตก ทุกๆ คนผิดหวังจริงๆ (และ) ผิดหวังมากเกี่ยวกับสถานการณ์”

“เราไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก มันไม่อาจจะโกรธเรื่องนั้นหรือเรื่องนี้ได้ แต่ชัดเจนว่ามีอารมณ์ต่างๆ มากมายในหัว และแผนการคือเราต้องกลับมาอีกครั้ง เราจะมาที่นี่อีกครั้ง และตอนนี้เราอยู่ตรงนี้หลังจากนั้น มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก แต่มีระยะเวลาที่ยาวนานระหว่างนั้น”

“ผมคิดว่าหลายทีมที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศอาจคิดว่า ‘เราจะต้องทำให้ถูกต้องให้ได้ แต่ไม่มีทางทำได้ในปีถัดไป’ และเรามีโอกาสนั้น มันเป็นการเริ่มต้นสำหรับพัฒนาการของทีมชุดนี้ 100 เปอร์เซ็นต์”

“ตั้งแต่วันแรกของปรีซีซั่น เมื่อเราอยู่ร่วมกันทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกของการแข่งขัน มันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับเด็กๆ ทีมชุดนี้ไม่จำเป็นต้องมาเปรียบเทียบกับทีมเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี”

“ส่วนที่ดีที่สุดจากคาแรกเตอร์ของทีมชุดนี้คือพัฒนาการที่ยังคงสม่ำเสมอ มันเป็นอย่างนั้น ผมอยากจะยกเจมส์ มิลเนอร์ เป็นตัวอย่าง เพราะว่ามิลลี่อายุ 33ปี แล้ว และยังคงพัฒนาในส่วนที่สำคัญมากจริงๆ ความเยือกเย็นในการเล่นอย่างนั้น การใช้ทักษะอันน่าเหลือเชื่อของเขาในหลายๆ จังหวะ”

“เขาเป็นตัวอย่าง เช่นเดียวกับเฮนโด้ และพวกเขาต้องการก้าวไปยังขั้นต่อไปอยู่เสมอ นั่นอยู่ในตัวพวกเขา และช่วยได้เป็นอย่างมาก... ผมมีความสุขจริงๆ ที่เรามีโอกาสให้เด็กๆ พวกเขาได้มีโอกาสที่จะชนะอะไรบางอย่าง”

“ผมไม่เคยกังวลเกี่ยวกับอนาคต ผมไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคต มันมักจะชัดเจนเสมอกับทีมชุดนี้เราจะต้องมีโอกาสมากกว่านี้”

“แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีบ่อยนัก แต่ชัดเจนว่ามีสโมสรมากมายสร้างทีมเพื่อมายังจุดนี้ในรอบชิงชนะเลิศ หรือชนะมัน เราไม่ใช่ แต่เรามาที่นี่อีกครั้งนั่นแสดงให้เห็นชัดๆ ถึงความตั้งใจของเด็กๆ พวกเขาต้องการอยู่ที่นี่ และพวกเขามาอยู่ที่นี่ และนั่นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก

“เด็กทุกคนเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ ถ้าคุณอยากให้พูด เพราะว่ามันเป็นเส้นทางที่ยากมาก”

การบาดเจ็บที่ไหล่ของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ระหว่างกลางครึ่งแรกในเกมชิงชนะเลิศเมื่อ 12 เดือนก่อนจนเขาต้องออกจากสนาม กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้โมเมนตัมช่วงต้นเกมของหงส์แดงเสีย และพ่ายแพ้ไป แต่ในฤดูกาลนี้ตลอดช่วงที่ผ่านมา คล็อปป์เชื่อว่าทีมของเขาสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงการรับมือ และจัดการปัญหาต่างๆ ได้

“ฤดูกาลเป็นการเตรียมเราให้พร้อมสำหรับเรื่องนี้ เพราะว่ามีสถานการณ์เหล่านี้ที่เราเล่นโดยต้องขาดนักเตะไปบ้าง และส่งคนอื่นๆ ลงมา และยังคงชนะเกม นั่นเป็นเรื่องที่ดี” นายใหญ่หงส์แดงยืนยัน

“(ในช่วงท้ายของฤดูกาล) บ็อบบี้ไม่สามารถลงเล่นได้ และดีฟมารับหน้าที่แทน แช็คลงเล่นแทนได้อย่างยอดเยี่ยม ปัญหาในปีที่แล้วไม่เพียงแต่เราเสียโมในสถานการณ์นั้น ที่เป็นปัญหาเช่นกันคืออดัม ลัลลานาที่เราส่งลงเล่นส่วนใหญ่ในวินาทีท้ายๆ ทำให้เขาพร้อมสำหรับเกมนั้น เพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บมาก่อน”

“เราเจอปัญหาการบาดเจ็บอื่นๆ แน่นอนว่ากับอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เราเจอปัญหาการบาดเจ็บมากมาย ซึ่งนั่นทำให้ม้านั่งสำรองของเราขาดไปในพื้นที่เฉพาะบางจุด ซึ่งเราจะมีนักเตะทุกคนที่พร้อมบนม้านั่งสำรอง(ปีนี้) นั่นทำให้เรามีทางแก้ และผมคิดว่านอกจากนาบีแล้วพวกเขาทุกคนจะพร้อมลงเล่น นั่นทำให้เรามีทางเลือกที่แตกต่างไปอย่างแท้จริง แต่อย่างที่ผมพูด เราแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากปีที่แล้ว”

“รวมทั้งการเซ็นสัญญานักเตะเช่นกัน อาลี ซึ่งชัดเจน, นาบี, ฟาบินโญ่ สำหรับทีมชุดนี้มันคือนัดชิงชนะเลิศครั้งแรก บวกกับที่เรามีนักเตะ 2-3 คนที่มีประสบการณ์มากกว่า สำหรับอาลี เขาแพ้ในรอบรองชนะเลิศในปีที่แล้ว ฟาบินโญ่แพ้ในรอบรองชนะเลิศกับโมนาโก ตามที่ผมคิด ดังนั้นตอนนี้พวกเขาเข้าชิงชนะเลิศกับกลุ่มนักเตะที่เหมาะสม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมบอกว่ามันเป็นทีมที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมีในรอบชิงชนะเลิศ”

“ท็อตแนมน่าจะพูดบางอย่างคล้ายๆ กัน แต่ผมมีความสุขจริงๆ กับทีมของผม และทางเลือกที่ผมมี แต่ยังต้องหวังบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงจะไม่เกิดขึ้นอีกในครั้งนี้ (อย่างซาลาห์เจ็บ) จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในวงการฟุตบอล”