ลิเวอร์พูลครองบัลลังก์แชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 6 หลังจากเอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 ในกรุงมาดริด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และดิว็อค โอริกี เป็นผู้ทำประตูในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีก ในครึ่งแรก และครี่งหลัง

นี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจจากค่ำคืนที่จะอยู่ในตำนานของลิเวอร์พูล...

หงส์แดงนำแชมป์สมัยที่ 6 กลับบ้าน

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอันดับ 3 ในยูโรเปียน คัพ และทิ้งบาร์เซโลนา และบาเยิร์น มิวนิก ออกไปชัดเจน 1 สมัย

สำหรับเกมชิงชนะเลิศครั้งที่ 9 ในรายการนี้ ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ กลับมาลงเล่นเกมชิงชนะเลิศอีกครั้งหลังจากอกหักในเคียฟเพียงปีเดียว

แม้ไม่ใช่ฟอร์มสุดยอดเหมือนที่ผ่านมาในเอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่ แต่ความจริงนั้นจะถูกมองข้ามไปในบันทึกประวัติศาสตร์

ขณะที่ผนังรูปแชมเปียนส์ที่เมลวู้ดจะมีการเปลี่ยนแปลงในเช้าวันนี้

โมแก้ตัวในนัดชิงชนะเลิศ

สายตาหลายคู่จับจ้องไปที่โอกาสแก้ตัวของนักเตะชาวอียิปต์ หลังความเจ็บปวดในยูเครนเมื่อ 12 เดือนก่อน แต่หลังจากมุสซ่า ซิสโซโก้ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ เจ้าของเสื้อเบอร์ 11 รับหน้าที่ยิงประตูจากระยะ 12 หลาผ่านอูโก้ โยริส เข้าไปให้หงส์แดงเริ่มเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นั่นยังทำให้เขากลายเป็นนักเตะชาวอียิปต์คนแรกที่ทำประตูในแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ

อย่ายอมแพ้

ความสำเร็จที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของนักเตะเหล่านี้

ชีวิตของนักเตะลิเวอร์พูลจะไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไป (ใช่ คุณด้วย ดิว็อค)

ตำนานใหม่ถูกสร้างขั้นในกรุงมาดริด ขณะที่ทุกคนที่ช่วยทีมจะได้รับสถานะเดียวกัน

“ที่ใดก็ตามที่คุณไปในโลกนี้จะมีแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่คุณทำได้”ชาบี อลอนโซ่ฮีโร่จากอิสตันบูลกล่าวกับ Liverpoolfc.com ไม่กี่วันก่อนหน้านี้

มีการส่งไม้ต่ออย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นจุดโทษของซาลาห์ และลูกยิงของโอริกีที่เป็นช่วงเวลาสำคัญ แต่รวมถึงการเซฟจังหวะสุดท้ายของอลิสสัน เบ็คเกอร์ในเกมกับนาโปลี และจังหวะเปิดลูกเตะมุมเร็วของเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ที่ช่วยให้ทีมคัมแบ็กแซงบาร์เซโลนา จะถูกเปิดซ้ำๆ ตลอดหลายทศวรรษข้างหน้า

เฮนเดอร์สันได้ชูถ้วยเกียรติยศ

การได้ชูถ้วยหูโตที่เอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่ ทำให้จอร์แดน เฮนเดอร์สันเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลคนที่ 6 เท่านั้นที่ได้ทำแบบนี้ตามรอยสตีเวน เจอร์รารด์, ฟิล ธอมป์สัน, แกรม ซูเนสส์ และเอมลีน ฮิวจ์สที่ได้โอกาสสองครั้ง

ถ้วยยุโรปยังเป็นถ้วยใบแรกที่เฮนเดอร์สันคว้ามาครอง หลังจากรับตำแหน่งต่อจากเจอร์ราร์ดในฐานะกัปตันทีมของสโมสรในเดือนก.ค. 2015

กำลังใจที่น่าทึ่งได้รับผลตอบแทน

ผู้จัดการทีม และนักเตะพูดมาตลอดว่าลิเวอร์พูลไม่มีทางมาถึงจุดนี้หากไม่มีแฟนบอล และพวกเขาแสดงออกในสเปนอีกครั้ง

แฟนบอลหงส์แดงเชียร์ในทุกๆ จังหวะบอล และวิตกกังวลกับทุกวินาทีระหว่างเกมท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอบอ้าว และมันคุ้มค่าก่อนที่ดาร์เมียร์ สโกนินา ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดยาวจบเกม

We've conquered all of Europe, we're never gonna stop... เราพิชิตทั่วทั้งยุโรป เราไม่เคยหยุดยั้ง…