Behind the Badge: ชายผู้รับผิดชอบสนามหญ้าศักดิ์สิทธิ์ในแอนฟิลด์

เราจะสรุปบทบาทของโรเบิร์ตส์ในฐานะผู้จัดการสนามฟุตบอลลิเวอร์พูลได้อย่างไร?

“ถ้ามันโตขึ้น และอะไรที่สโมสรเป็นเจ้าของ มันคือความรับผิดชอบของผม” เขายิ้ม

โรเบิร์ตส์ และทีมงานที่เสียสละของเขาเป็นผู้ดูแลการผลิต และการบำรุงรักษาพื้นผิวสนามฟุตบอลที่แอนฟิลด์, เมลวู้ด และเคิร์กบี อะคาเดมี รวมถึงภูมิทัศน์โดยรอบ

มันเกี่ยวข้องกับการเริ่มงานแต่เช้ามืด ไปเสร็จเอาตอนดึก และเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยส่งมอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอันเก่าแก่ออกมาให้เห็นในวันแข่งขัน”

 “ผมคิดว่า สิ่งที่มองเห็นได้จากคนดูแลสนาม คือคุณเห็นเรากำลังตัดหญ้า และทุกๆ คนสามารถตัดหญ้าได้” โรเบิร์ตส์บอกกับ Liverpoolfc.com จากสำนักงานแอนฟิลด์ของเขาบริเวณมุมของอัฒจันทร์เมน สแตนด์

 “แต่ทักษะที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอด และสิ่งที่อยู่ใต้พื้นหญ้านั้นมีวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลัง มันมีความรู้ทั้งหมดอยู่เบื้องหลังของมัน”

 “เราต้องพัก และมีโปรแกรมฟื้นฟูสำหรับสนาม เมื่อมันไม่ได้มีการลงเล่น การทำอย่างมีประสิทธิภาพราวกับว่า มีนักกีฬากว่าหนึ่งพันล้านคนลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ตรงนั้น”

 “การมีชีวิต และการหายใจของพวกมัน เราต้องจัดการ เพื่อให้แน่ใจว่ามันมีสุขภาพที่ดีที่สุด เราจัดการด้านโภชนาการเราทำการวิเคราะห์ดิน เราทำการวิเคราะห์เนื้อเยื่อใบ เราดูสิ่งที่จำเป็น และจัดทำโปรแกรมโภชนาการให้ตรงกับมันที่สุด”

 “มีความคล้ายคลึงกันหลายอย่างกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์การกีฬาของเราทำกับนักกีฬาของเราที่เราทำมันกับ  เราทำสิ่งที่คล้ายกันมาก สำหรับพื้นผิวที่พวกเขากำลังเล่นอยู่”

เช่นเดียวกับแผนกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานฟุตบอลของสโมสร เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับเจอร์เก้น และผู้เล่นของเขา นั่นคือเป้าหมายสูงสุดสำหรับโรเบิร์ตส์

ทีมของเขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดการทีมชุดใหญ่ และทีมงานเบื้องหลัง เพื่อให้แน่ใจว่าหงส์แดงเล่นในสไตล์เดียวกันกับสนามหญ้าที่พวกเขาฝึกซ้อม และมีความพยายามคล้ายๆ กัน เมื่อพวกเขาเดินทางไปต่างประเทศเช่นเดียวกัน

“เราทำการทดสอบพื้นสนามมากขึ้นในตอนนี้” โรเบิร์ตส์กล่าว “เรากำลังดูความแข็ง และการโต้ตอบของรองเท้าของผู้เล่นกับพื้นผิว และการเด้งของลูกบอล”

"สิ่งที่ผมพูดกับเจอร์เก้น ตอนที่ผมเริ่มอันดับแรก ประเด็นหลักที่ต้องทำคือ ให้ข้อมูลกับเขาอย่างสม่ำเสมอ”

“เพราะสิ่งที่คุณไม่ต้องการคือให้นักเตะคิดว่า ‘ผมฝึกซ้อมที่เมลวู้ด แต่ผมต้องไปที่แอนฟิลด์ และจำเป็นต้องเปลี่ยนรองเท้า บอลเด้งแตกต่างออกไป กลิ้งในแบบที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง’ ผมไม่ต้องการให้พวกเขาคิดอย่างนั้น”

"ดังนั้นไม่ว่าเขาจะฝึกซ้อมเมลวู้ด เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเข้ามา และทำหน้าที่ในในวันแข่งขัน มันจะเป็นธรรมชาติในวินาทีเดียว มันจะดู สัมผัส และตอบสนองตรงกับที่ทำในสนามฝึกซ้อม”

คล็อปป์ให้ความสนใจในส่วนดังกล่าวเป็นตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งโรเบิร์ตส์เชื่อว่าความปรารถนาอันแรงกล้าของเขาในการสกัดความได้เปรียบทุกประการออกมา

เดวิดกล่าวเสริมว่า “พวกเขาพูดกับเราว่ามันไม่ได้มีเรื่องบังเอิญในช่วง 2-3 ปีหลัง ในเรื่องที่มาตรฐานของสนามมีการปรับปรุง และมาตรฐานของฟุตบอลมีการปรับปรุงในระดับเดียวกัน มีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน”

 “พวกเขาไมได้เรียกร้องมากมาย พวกเขาเรียกร้องพื้นสนามสองสนามระดับท็อปด้วยมาตรฐานที่เหมือนกัน ในขณะที่แอนฟิลด์วันแล้ววันเล่ามีบอลที่เหมาะสมในสนาม นักเตะที่เหมาะสมในสนาม พื้นผิวที่ดี และมันจะพาสโมสรไปอีกระดับ”

 “มันเป็นเรื่องดีที่คุณได้เป็นส่วนเล็กๆ  แต่เป็นส่วนที่สำคัญมาก”

โรเบิร์ตส์ย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูลตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิในปี 2016 งานแรกของเขาในวงการฟุตบอลคือ ที่เซาท์แฮมป์ตัน ก่อนอำลาหลังจาก 12 ปีในการเป็นพนักงานดูแลสนามของโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอย่างชาร์เตอร์เฮาส์ในเซอร์เรย์

เขาบรรยายตัวเอง 'ผู้ติดตาม' ของนักฟุตบอลมากกว่าแฟนตัวยง อย่างไรก็ตามโรเบิร์ตส์มีเวลาน้อยที่จะสนใจกับผลงานของนักเตะ 22 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 “เราใช้เวลามากกว่าการโต้ตอบของลูกบอล และผู้เล่นบนพื้นผิวมากกว่าที่จะสนใจเกมจริงๆ” เขากล่าว

“คุณดูเกม แต่คุณชอบ 'ว้าว เท้าของเขาลื่นบนนั้นเหรอ?' คุณเห็นผู้เล่นคนหนึ่งล้มลงไปด้วยอาการบาดเจ็บ และแบบ 'เกิดอะไรขึ้นที่นั่น?' ‘

“เกม (ที่หนักที่สุด) สำหรับเราในส่วนของเวลาน่าจะเป็นเกมแชมเปียนส์ลีก สำหรับเกมแชมเปียนส์ลีกเราน่าจะทำงานตั้งแต่ 8.00 น. ในวันฝึกซ้อม เพราะคู่แข่งจะฝึกซ้อมก่อนหน้านั้น และเราจะเข้าไปจนถึงเวลา 21.30 น. .

“เราจะกลับไปตอน 8.00 น.ของอีกวันเพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับการตรวจสอบของผู้ตัดสิน หลังจากนั้นเราจะทำงานไปจนถึง 13.00 น. จนถึง 13.30 น. ซึ่งเราจะทำให้มันรับแสงได้มากขึ้น”

แสงไฟเหล่านั้นจากแท่นเครื่องส่องไฟเพื่อเลียนแบบแสงแดดให้ใกล้เคียงที่สุด มันจะช่วยรักษาสถานะของสนามหญ้าในช่วงหลายเดือนหญ้ากลายเป็นหญ้าแห้งโดยปกติตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนเมษายน

ความทนทานที่มากขึ้นสำหรับพื้นผิวของการเล่นในแอนฟิลด์นั้น ทำได้เรียบร้อยเมื่อมีการติดตั้งสนามใหม่ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล 2017-18 โดย 3 เปอร์เซ็นต์ทำจากเส้นใยเทียมของเดสโซ่ กราสมาสเตอร์

ตอนนี้โครงการล่าสุดสำหรับโรเบิร์ตส์ในการบริหารนั้น เกี่ยวกับการที่ทีมชุดใหญ่ย้ายสถานที่ในการฝึกซ้อมของพวกเขาไปที่เคิร์กบีซึ่งเป็นที่ตั้งของทีมเยาวชนของสโมสรในปัจจุบัน

มันต้องมีการติดตั้งสนามฝึกซ้อมระดับเฟิร์สคลาสสามสนาม โดยหนึ่งในนั้นจะขนาดของแอนฟิลด์ อีกสองแห่งจะมีมิติเท่ากับสนามจองคู่แข่ง รวมถึงพื้นที่วอร์มอัพขนาดใหญ่ ส่วนผู้รักษาประตู และสนามสำหรับทำกายภาพโดยเฉพาะ

 “สิ่งที่เรากำลังทำจริง ๆ คือรวมรวมพื้นที่ของเมลวู้ด แล้วย้ายไปที่เคิร์กบี” เดวิดอธิบาย “เราไม่ได้มีสนามเพิ่มขึ้น เรามีสนามจำนวนเท่ากัน”

 “สนามควรมีคุณภาพที่ดีขึ้นที่เรามีในตอนนี้สร้างเสร็จ อาคารดีขึ้น รูปแบบของพื้นที่ดีขึ้น ดังนั้นทุกอย่างในการทำงานจะมีข้อดีมากมาย”

 “เจอร์เก้นมีความสำคัญอย่างมากในการทำให้ ‘สโมสรเป็นหนึ่งเดียว’ และเราทั้งหมดเป็นทีมชุดเดียว ความพยายามที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้”

เผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนในแต่ละวัน โรเบิร์ตส์ยังต้องทำงานตำแหน่งของเขา โดยเฉพาะในวันแข่งขัน

เขาสรุป "เมื่อการอบอุ่นร่างกายเสร็จสิ้น และผู้เล่นกลับไปในห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อม เราจะทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะถูกเก็บ และเราจะทำการกวาดครั้งสุดท้ายตลอดทั้งสนามเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความเสียหาย ได้รับการทำจากช่วงวอร์มอัพ”

 “เราแทบจะเดินสวนออกไปจากสนามเมื่อทีมออกมาทันที คุณจะได้รับเสียงตะโกนจากผู้ชม ทำให้ขนลุกไปทั่วตัว”

 “หลายครั้งมันคืองาน คุณออกมา คุณอยู่ที่แอนฟิลด์ แต่มันเป็นเพียงหญาแต่ละชิ้นที่คุณต้องดูแล”

 “แต่ทุกๆ ครั้งบ่อยๆ ที่คุณมองไปรอบผม และพูดกับตัวเองว่า ‘ผมยืนอยู่ที่ในสนามแอนฟิลด์’ “

ที่ที่รู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะไถลเข่าลงไป