ลิเวอร์พูลเดินหน้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีก ด้วยชัยชนะแห่งความทรงจำ 3-1 ในบ้านของบาเยิร์น มิวนิก ค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา

และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจจากค่ำคืนประวัติศาสตร์ที่อัลลิอันซ์ อารีนา...

สองประตูของมาเน่

มาเน่ทำไป 8 ประตูจาก 9 เกมก่อนหน้านั้น และยังทำอีกสองประตูสำคัญที่อัลลิอันซ์  อารีนา โดยประตูแรกมาจากทักษะอันยอดเยี่ยมในการคอนโทรลลูกเปิดยาวของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ทางมุมเขตโทษด้านซ้ายของบาเยิร์น ก่อนหมุนตัวหนีมานูเอล นอยเออร์ และชิพอย่างแม่นยำผ่านกองหลังสองรายเข้าประตู

หลังจากนั้นเขามาทำประตูการันตีตั๋วในรอบ 8 ทีมสุดท้ายจากลูกโหม่งท้ายเกม และเป็นประตูที่ 19 ในฤดูกาลนี้จากทุกรายการของเขา ที่ยังทำเขาให้เขาเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูนอกบ้านให้หงส์แดงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโรเปียน คัพ/แชมเปียนส์ลีก ที่ 7 ประตูในเวลานี้

‘และเราก็เห็นเขาทำประตู!’

ถ้ามีเรื่องที่ฟาน ไดจ์ค ตำหนิตัวเองตลอดปีแรกกับสโมสร คือ จำนวนประตูที่ทำได้ แต่นักเตะดัตช์โหม่งสองประตูในเกมถล่มวัตฟอร์ด 5-0 ในเดือนที่แล้ว และเพิ่มประตูทรงคุณค่าในเกมนี้จากลูกโหม่งในนาทีที่ 69 ของเกมเลกที่สองในมิวนิก

เขาโหม่งเต็มศรีษะจากลูกปั่นโค้งจากมุมขวาของเจมส์ มิลเนอร์เสียบมุมลางซ้ายอย่างเด็ดขาด และเป็นประตูสำคัญให้ทีมนำแชมป์บุนเดสลีกาหลายสมัย และยังเป็นประตูแรกในรายการนี้ของเขาจาก 19 เกม ที่ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกได้เฉลิมฉลองไปด้วยกัน

สถานการณ์ที่พลิกผัน

เส้นทางสู่นัดชิงแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลที่แล้ว มาจากผลงานที่ยอดเยี่ยมในเกมแรก ไม่ว่าจะเป็นชนะปอร์โต้ (5-0), แมนฯ ซิตี้ (3-0) และโรม่า (5-2) แต่ครั้งนี้พวกเขาเจอกับความท้าทายที่แตกต่างออกไป หลังจากบาเยิร์นตั้งกำแพงรับที่แอนฟิลด์เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

และพวกเขาก็ทำได้ ‘ดีเป็นพิเศษ’ ตามที่ผู้จัดการทีมต้องการ เมื่อได้ประตูที่ต้องการ พวกเขาตอบสนองกับการกดดันของเจจ้าถิ่น เล่นได้นิ่ง และคุมเกมได้ดี ก่อนจะช็อกแฟนบอลในสนามอัลลิอันซ์ อารีนา จากสองประตูในครึ่งหลัง

 

คล็อปป์ยังทำสถิติสุดยอดในเกมสองเลก

เดอะ บอส มีสถิติในเกมยุโรป สองเลกที่สมบูรณ์แบบนับในช่วงเวลาที่อยู่กับลิเวอร์พูล นี่เป็นชัยชนะนัดที่ 16 จาก 20 เกมโดยรวม และหงส์แดงผ่านเข้ารอบต่อไปทั้ง 9 ครั้ง ทั้งในยูโรปา ลีก และแชมเปียนส์ลีก ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในปี 2015

แฟนบอลอาจจะสนใจที่จะอยากรู้เรื่องใน 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาที่ลิเวอร์พูลเผชิญหน้ากับสโมสรจากเยอรมนีในยุโรป พวกเขาชนะผ่านรอบนั้นไปได้ และเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศได้ในปี 2005, 2016 และ 2018

 

สายตาทุกคู่ตอนนี้จับจ้องไปที่นียง

เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกันที่ลิเวอร์พูลผ่านเข้าไปเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีก ที่ทีมจากอังกฤษผ่านเข้ารอบไปครบถ้วน

เส้นทางที่เหลือในรายการนี้จะมีการจับสลากที่นียงในวันศุกร์นี้ โดยไม่มีทีมวาง และกฎทีมประเทศเดียวกันจะไม่เจอกันเอง แปลว่าหงส์แดงจะเจอกับทั้ง 3 ทีมในพรีเมียร์จาก 7 ทีมได้ รวมถึงอาแจ็กซ์, บาร์เซโลนา, ยูเวนตุส และปอร์โต้ ที่ยังมีโอกาสลุ้นความสำเร็จในรายการนี้