ลิเวอร์พูลทำสถิติคว้าชัยชนะในเกมเยือนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาของพวกเขาในรายการเอฟเอ คัพ ในวันนี้ เมื่อปี 2006 เมื่อทีมของราฟาเอล เบนิเตซ ทำ 7 ประตูใส่เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในรอบ 6

ซามี ฮูเปีย ทำประตูขึ้นนำหลังผ่านไปเพียง 55 วินาทีที่สนามเซนต์ แอนดรูว์ ก่อนที่ปีเตอร์ เคร้าซ์ จะทำประตูที่สองได้อย่างรวดเร็ว

เคราซ์ยังเป็นผู้ทำประตูที่สามได้ในช่วงก่อนพักครึ่ง ขณะที่ในครึ่งหลังทีมมาได้ประตูเพิ่มจากเฟอร์นานโด มอริเอนเตส, จอห์น อาร์เน รีเซ่, ฌิบริล ซิสเซ่ และการทำเข้าประตูตัวเองของ โอลิวิเยร์ เตบิลี ทำให้ลิเวอร์พูลผ่านเข้าไปสู่รอบเซมิ ไฟนัล ได้สำเร็จ

เกมนี้ยังเป็นเกมแรกที่ โมโม่ ซิสโซโก้ ได้กลับมาลงสนามหลังมีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาด้วย

ย้อนกลับในปี 1984 ทีมลิเวอร์พูลของโจ เฟแกน เดินทางไปเยือนเบนฟิก้า เพื่อลงเล่นเกมนัดที่สองของศึกฟุตบอลยูโรเปียนส์คัพ รอบสาม

หลังเอาชนะได้ 1-0 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน รอนนี วีแลน (ทำ 2 ประตู), เคร็ก จอห์นสตัน และเอียน รัช ต่างก็ช่วยกันทำประตูที่เอสตราดิโอ ดา ลุซ ให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 4-1

ย้อนขึ้นไปอีก 11 ปีก่อนหน้า ไดนาโม เดรสเดน พ่ายแพ้ไป 1-0 ในเยอรมนี ในรายการยูฟ่า คัพ รอบสี่ จากประตูของเควิน คีแกน ในนาทีที่ 53

อีกเกมในวันนี้ของปี 2012 เซบาสเตียน โคอาเตส ทำประตูด้วยลูกโอเวอร์คิกในพรีเมียร์ลีกที่ออกไปเยือนควีนสพาร์ก เรนเจอรส์

และสำหรับเหตุการณืนอกสนามฟุตบอล ในวันนี้เมื่อ 13 ปีที่แล้ว สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้รับเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ชั้น MBE จากสมเด็จพระราชินีนาถที่พระราชวังบัคกิงแฮม

“ผมได้ลงเล่นในเกมใหญ่กับบุคคลที่แสนพิเศษมาหลายต่อหลายเกม แต่ผมไม่เคยได้มีประสบการณ์เช่นนี้ มันเป็นความตึงเครียดที่แตกต่างไปจากฟุตบอลอย่างสิ้นเชิง” เจอร์ราร์ดกล่าวหลังจบงาน

“ในโลกฟุตบอล ผมรู้ว่าผมตั้งใจจะทำอะไร แต่วันนี้เป็นวันสำคัญ และเป็นวันที่น่าภาคภูมิใจสำหรับผม”