ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มแซงกลับมาเอาชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 ที่แอนฟิลด์ในพรีเมียร์ลีก ค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจจากเกมดังกล่าว…

หงส์แดงแสดงความมุ่งมั่นออกมาอย่างเต็มที่

กับโปรแกรมลงสนามอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาเพียงสองสามวัน หงส์แดงพยายามหาทางเก็บชัยชนะได้ทั้งเกมกับอาแจ็กซ์ในแชมเปียนส์ลีก และเกมที่แออนฟิลด์เมื่อวานนี้ แม้จะไม่ใช่ฟอร์มสุดยอด แต่ผลการแข่งขันนั้นมความหมายอย่างยิ่ง แม้จะตกเป็นฝ่ายตามหลังในเกมล่าสุดก็ตาม

“มันยากที่จอยมรับ พวกเขาเจอปัญหาที่ยากที่พลิกสถานการณ์” เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์กล่าวหลังจบเกม “แต่เรามีคุณลักษณะแบบนี้ในทีม และเราแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเรา และเดินหน้า และทำสงประตู”

ประตูของโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และโชต้าช่ยให้หงส์แดงไม่แพ้ใครใน 13 เกมหลังสุดที่แอนฟิลด์ที่เสียประตูไปก่อน พวกเขายังชนะ 28 จาก 29 เกมหลังสุดที่แอนฟิลด์ ยืดสถิติไม่แพ้ใครต่อเนื่องในสนามแห่งนี้ 62 เกม

โชต้าเป็นตัวจริง

โชต้าเริ่มรู้สึกว่าลิเวอร์พูลเป็นบ้านของเขา หลังจากทำสองประตูในพรีเมียร์ลีกจาก 2 เกมในแอนฟิลด์ ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ทำได้แบบนี้นับตั้งแต่ซาดิโอ มาเน่ในปี 2016 และเจอร์เก้น คล็อปป์เชื่อว่ายังมีอะไรอีกมากมายจะตามมาสำหรับนักเตะวัย 23 ปี

“เขายังคงต้องปรับตัว” คล็อปป์ยอมรับหลังเกม “เขาอายุ 23 ปี และมีอนาคตที่สดใส ผมต้องบอกอย่างนั้น เราจะต้องการคุณภาพของเขา และผมมีความสุขจริงๆ ที่เขาปรับตัวได้ดีมากจนถึงตอนนี้”

การปรับระบบ

การใส่ชื่อโชต้าเป็น 11 ตัวจริง ทำให้พวกเขาต้องปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 แทนที่จะเป็น 4-3-3 เมื่อสามประสานตัวหลักยังลงเล่นเหมือนเดิม โดยซาลาห์ยืนหน้าเป้า มีมาเน่ทางฝั่งซ้าย โชต้าทางฝั่งขวา และเฟอร์มิโน่ถอยต่ำ และการที่เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดมีเวลาเตรียมตัวหนึ่งสัปดาห์เต็มคือเหตุผลสำคัญ

คล็อปป์อธิบายว่า “มันเป็นแบบ ‘เราจะจัดตัวจริงอย่างไร? เราจะปรับทีมอย่างไร? เราจะทำอะไรได้บางในเกมสำคัญหนึ่งเกมอย่างนี้? เราสามารถสร้างปัญหาให้กับพวกเขาอย่างไร?’

“แน่นอนว่าเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดมีข้อได้เปรียบอย่างมากที่พวกเขามีเวลาทั้งสัปดาห์ในการเตรียมตัวสำหรับเกมของเรา พวกเขาสามารถเตรียมลูกตั้งเตะ 12 แบบ มีเวลาซ้อมระหว่างสัปดาห์ ในขณะที่เราต้องฟื้นฟูร่างกาย”

“ดังนั้นเราคิดว่ากับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเราน่าจะสร้างปัญหาบาองย่างให้กับพวกเขาได้เช่นกัน ซึ่งเราทำได้จริงๆ”

ความเหนือชั้นของซาลาห์

หลังจากทำประตูที่ 100 ให้กับลิเวอร์พูลสุดสัปดาห์ที่แล้ว เขาถูกปฏิเสธประตูที่ 101 จาก VAR ในเกมนี้ ซึ่งแม้จะไม่ได้ประตู แต่มีไม่กี่ครั้งจาก 100 ประตูก่อนหน้านี้ที่ซาลาห์ทำได้ดีกว่านี้ ก่อนที่โชต้าจะทำประตู ซาลาห์ดึงลูกหยอดของอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ลง และในจังหวะที่สองเขาซัดด้วยหลังเท้าผ่านตัวแอรอน แรมสเดล

แม้การฉลองจะหยุดลงเนื่องจากต้องตรวจสอบการล้ำหน้า ก่อนที่มันจะได้รับการยืนยันหลังจากนั้น จังหวะต่อมาเขาก็แตะหนีจอห์น เอแกนก่อนที่จะยิงไปชนเสา และถูกสกัดออกมา แต่รวมแล้วเจ้าของเสื้อเบอร์ 11 ได้แสดงพรสวรรค์ในระดับโลกออกมาให้เห็น

การมาของอลิสสัน

ลิเวอร์พูลได้รับข่าวดีก่อนเกม เมื่อเขารู้ว่าอลิสสันหายเจ็บไหล่กกลับมาเฝ้าเสา หลังจากพลาด 3 เกมก่อนหน้านี้

“ผมมีความสุขจริงๆ เมื่อเขาได้ไฟเขียว และพูดว่า ‘ใช่ ผมพร้อมแล้ว’ เพราะว่ามันเป็นการตัดสินใจของเขา” คล็อปป์กล่าว

นักเตะบราซิลไม่ได้ทำงานมากกนักจากฟอร์มยอดเยี่ยมของแนวรับที่หยุดโอกาสทำเยือนให้ยิงเข้ากรอบได้เพียงสองครั้ง และเขาเซฟลูกวอลเลย์ของเบน ออสบอร์นในขณะที่สกอร์ 1-0

กับสถิติเล่นบอลด้วยเท้า เจ้าของเสื้อเบอร์ 1 จ่ายบอลสำเร็จ 24 ครั้งตลอด 90 นาที

ถือว่ายอดเยี่ยมมากที่ได้เขากลับมา